ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีสุรภักดิ์ โปรแกรมเมอร์ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเขียนข้อความหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ไทยลงในFacebook โดยกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐาน วันที่ 30 มกราคม 2555 เวลา 9.00 น. ณ ศาลอาญา รัชดาภิเษก ห้อง 804

การนัดตรวจพยานหลักฐาน เป็นนัดแรกของศาลหลังมีคำสั่งฟ้อง คู่ความทั้งสองฝ่ายคือ โจทก์และจำเลย จะมาพบกันในศาลและยื่นบัญชีพยาน ศาลจะพิจารณาความเหมาะสมของพยานและจะพิจารณาว่าจะอนุญาตให้แต่ละฝ่ายมีเวลาสืบพยานได้ทั้งหมดกี่วัน

................................

รายละเอียดคดี

ชื่อคดี : สุรภักดิ์ ภ.
เพศ : ชาย
สถานะผู้ต้องหา : ถูกคุมขังระหว่างคดี
รูปแบบการจำกัดเสรีภาพ : ดำเนินคดี ไม่ให้ประกันตัว
ประเภทสื่อ : โซเชียลเน็ตเวิร์ค
ข้อกล่าวหา : นำเข้าสู่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งกระทบต่อความมั่นคง, หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาท
ข้อหา : Article 14 (3) Computer Crime Act, Article 112 Criminal Code
วันที่คดีเริ่มต้น (เท่าที่ค้นได้)  : ถูกจับเมื่อ 02/09/2554
ศาล: ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ
หมายฝากขัง : พ.2643/2554
หมายเลขคดีดำ : อ.4857/2554 วันที่ 25/11/2554
สถานะคดี : ชั้นศาลชั้นต้น
ภูมิหลังผู้ต้องหา:
สุรภักดิ์มีอาชีพเป็นโปรแกรมเมอร์ รับจ้างเขียนระบบให้บริษัทเอกชน

ผู้กล่าวหา / โจทก์ :
พ.ต.ท.ณรงค์ แม้นเหมือน พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี / พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 สำนักงานอัยการสูงสุด

รายละเอียดการกระทำตามข้อกล่าวหา:
สุรภักดิ์ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของอีเมล์ที่ชื่อว่าดอกอ้อ และสร้างเฟซบุคบัญชีที่ชื่อ “เราจะครองแผ่นดินฯ (ขอสงวนข้อความ)” โดยเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2554 เวลากลางวันถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2554 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง มีข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หมิ่นประมาท ดูหมิ่น ใส่ความ แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ เผยแพร่ทางเฟซบุคดังกล่าว รวม 10 สถานะ

พฤติการณ์การจับกุม:
นายสุรภักดิ์ถูกจับกุมวันที่ 2 กันยายน 2554 ที่โฮมออฟฟิศของตนในย่านลาดพร้าว โดยตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (ปอท.) นับสิบรายบุกเข้าไปที่บ้าน และยึดเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา 1 เครื่อง แอร์การ์ด 1 อัน ซิมการ์ดของบริษัททรูมูฟ 2 อัน และของวันทูคอล 1 อัน แผ่นซีดี 52 แผ่น โมเดมเร้าทเตอร์ 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 เครื่อง แผงวงจรไฟฟ้า 1 ตัว เป็นของกลาง

จากคำบอกเล่าของนายสุรภักดิ์ ในวันที่ถูกจับกุมเขาพยายามติดต่อเพื่อนและทนายแต่ไม่ได้รับอนุญาต ต่อข้อหาที่ถูกกล่าวหานั้น เขาปฏิเสธในชั้นจับกุมและกล่าวว่าถูกคนที่รู้จักและเพิ่งมีเรื่องบาดหมางกันเป็นผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ

ความเคลื่อนไหวคดี:
2 กันยายน 2554 ถูกจับกุม และไม่ได้รับการประกันตัว
25 พฤศจิกายน 2554 ศาลมีคำสั่งฟ้อง โดยนับข้อกล่าวหาเป็นการกระทำหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ไทย ทั้งสิ้นรวม 10 กรรม ท้ายคำฟ้อง นายชลัมพร เพ็ชรรัตน์ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นผู้เรียบเรียงคำฟ้อง ได้ระบุเหตุผลที่ไม่ให้ประกันตัวไว้ว่า

“อนึ่ง จำเลยเป็นคนไทย อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทรงมีพระกรุณาธิคุณต่อชาติบ้านเมือง และพสกนิกรเป็นล้นพ้น จำเลยนอกจากไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณทรงมีต่อพสกนิกรเสมอมาแล้ว ยังบังอาจแสดงความอาฆาตมาดร้าย มุ่งล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติที่ประชาชนชาวไทยไม่อาจยอมรับได้ พฤติกรรมของจำเลยไม่มีเหตุอันควรปราณี ไม่ว่าในทางใด สมควรได้รับโทษสถานหนัก จำเลยกระทำผิดร้ายแรง อันป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หากจำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราว อาจหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อภัยในลักษณะดังกล่าวขึ้นมาอีก หากจำเลยขอปล่อยตัวชั่วคราว โจทก์ขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวของจำเลย”

ตารางนัดหมาย :
นัดตรวจพยานหลักฐาน วันที่ 30 มกราคม 2555 เวลา 9.00 น. ณ ศาลอาญา รัชดาภิเษก ห้อง 804

หมายเหตุ: บางหน้าของปฏิทินกิจกรรมในเว็บไซต์ iLaw นี้ จะปรากฏข้อมูลรายละเอียดและความคืบหน้าคดี  ซึ่งมีเนื้อหาพิเศษเกินกว่าปฏิทินกิจกรรมทั่วไป ทั้งนี้ การบันทึกและสังเกตการณ์คดีเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมนำร่องของการจัดทำ "ฐานข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ" (Freedom of Expression Documentation Center) เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนร่วมกันสังเกตการณ์คดีที่เกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็น