รอบอาทิตย์ที่สอง มี.ค.55: "นิวส์วีค" ยก ยิ่งลักษณ์-จีรนุช 150 ผู้หญิง "เขย่าโลก"

รอบอาทิตย์ที่สอง มี.ค.55: "นิวส์วีค" ยก ยิ่งลักษณ์-จีรนุช 150 ผู้หญิง "เขย่าโลก"

เมื่อ 11 มี.ค. 2555

"นิวส์วีค" ยก ยิ่งลักษณ์-จีรนุช 150 ผู้หญิง "เขย่าโลก"

นิตยสาร Newsweek ร่วมกับเว็บ The Daily Beast จัดอันดับ 150 ผู้หญิงกล้าหาญของโลก (Fearless women) โดยในปีนี้ มีคนไทย 2 คน ได้แก่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และจีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเว็บไซต์ประชาไท ได้รับการคัดเลือก

Newsweek เขียนถึงยิ่งลักษณ์ว่า เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยที่ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จากแคมเปญขจัดความยากจนด้วยการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ สร้างรถไฟความเร็วสูง และมอบคอมพิวเตอร์ให้นักเรียนทุกคนฟรี โดยระบุด้วยว่า ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นน้องสาวของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถูกขับไล่ออกไป ไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อน แต่เป็นผู้ที่ทำให้เกิดความหวังถึงความปรองดองในประเทศ ทั้งนี้ หนึ่งเดือนหลังเข้าสู่ตำแหน่ง ประเทศไทยประสบกับปัญหาน้ำท่วม เธอก็ได้เตรียมแผนการบรรเทาและมาตรการป้องกันระยะยาว

Newsweek เขียนถึงจีรนุชว่า เธอถูกจับกุมครั้งแรกจากสิ่งที่พวกเราหลายคนทำกันอยู่ทุกวัน อย่างการเขียนและการแชร์ข่าวออนไลน์    ผู้บริหาร "ประชาไท" เว็บข่าวภาษาไทย กลายมาเป็นนักต่อสู้ (crusader) เพื่อเสรีภาพสื่อซึ่งกำลังถูกเซ็นเซอร์มากขึ้นในไทย จีรนุชซึ่ง ได้รับรางวัล The Courage in Journalism Award (ความกล้าหาญในการทำหน้าที่สื่อมวลชน) จาก International Women Media Foundation (มูลนิธิสื่อสตรีนานาชาติ) กำลังเผชิญกับโทษจำคุก 20ปี แต่ยังคงเน้นถึงความสำคัญของเสรีภาพและเสียงที่ค่อยไม่ได้รับความสำคัญในโลกออนไลน์ทั้งนี้ ถึงแม้ Newsweek จะระบุว่า จีรนุช ถูกดำเนินคดีด้วยการเขียนและการแชร์ข้อเขียนออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ในข้อเท็จจริง จีรนุช ถูกดำเนินคดีด้วยพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 15ในฐานะผู้ดูแลเว็บบอร์ดประชาไท ซึ่งมีผู้มาโพสต์ความเห็นที่ถูกตัดสินว่าเข้าข่ายละเมิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

สำหรับผู้ที่ได้รับการคัดเลือก ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกา 52 ราย อาทิ ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ แองเจลินา   โจลี นักแสดงสหรัฐฯ เลดี้ กาก้า และโอปราห์ วินฟรีย์  สำหรับเอเชีย  ประกอบไปด้วย อิรอม ชาร์มีลา ชานุ นักเขียนและนักเคลื่อนไหวปกป้องสิทธิมนุษยชนชาวอินเดีย อองซานซูจี จากพม่า ปักกึนเฮ นักการเมืองเกาหลีใต้ ผู้ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนต่อไป

ที่มา: The Daily Beast

 

จำคุก 3 เดือน-ให้ประกัน ฝาแฝดทำร้าย วรเจตน์

วันที่ 8 มีนาคม 2555 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงดุสิต ถ.ตลิ่งชัน พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงครามได้นำตัวสุพจน์ ศิลารัตน์ และ นายสุพัฒน์ ศิลารัตน์ ทั้งสอง อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นฝาแฝดพี่น้อง ชาว จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น มารายงานตัวกับพนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวงดุสิต หลังจากนั้นพนักงานอัยการได้นำทั้งสองไปยื่นฟ้องเป็นจำเลยที่ 1 - 2 ต่อศาลแขวงดุสิตใน ความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บและเป็นอันตรายแก่ร่างกาย

อัยการระบุในคำฟ้องว่า เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 55 เวลากลางคืน จำเลยทั้งสองได้ไปดักรอ และรุมชกทำร้ายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ ที่เรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 บริเวณโหนกแก้มขวา และหน้าผากได้รับบาดเจ็บก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถหน้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งนี้ อัยการโจทก์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 และให้นับโทษต่อนายสุพจน์ จำเลยที่ 1 ในคดีแดง 1336/53 ของศาลอาญา ในคดีกระทำผิด พ.ร.บ. อาวุธปืน ที่ศาลรอการลงโทษไว้จำนวน 7 เดือนด้วย จำเลยรับสารภาพ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 6 เดือน คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยไว้คนละ 3 เดือนโดยไม่รอลงอาญา ซึ่งในส่วนของนายสุพจน์ จำเลยที่ 1 ให้บวกโทษคดีกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน คดีแดง 1336/53 ของศาลอาญาที่รอการลงโทษไว้ 7 เดือน รวมจำคุก นายสุพจน์ไว้ 10 เดือน ในเวลาต่อมา ญาติของทั้งสองได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 50,000 บาท ขอปล่อยตัวชั่วคราว ต่อมาศาลพิจารณาคำร้องยื่นประกันตัวแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งสองชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์สู้คดี โดยศาลตีราคาประกันเป็นเงินสดคนละ 22,000 บาท

ที่มา: ASTV-ผู้จัดการ

 

นักกิจกรรมประกาศยุติอดอาหาร เดินหน้าร้องปฏิรูปศาล-ปล่อยนักโทษการเมือง

วันที่ 5 มีนาคม 2555 เวลา 09.30 น. บริเวณหน้าศาลอาญา รัชดา  กลุ่มประชาชนและนักกิจกรรมราว 10 คน ซึ่งผลัดกันดำเนินกิจกรรมอดอาหารมาตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. ได้ประกาศยุติการอดอาหารแล้ววันนี้ หลังจากดำเนินกิจกรรมต่อเนื่องมาเป็นเวลา 23 วัน ต่อจากการอดอาหารของนายปณิธาน พฤกษาเกษมสุข และนางผุสดี งามขำ เพื่อรณรงค์เรื่องสิทธิการประกันตัวของนักโทษการเมือง ตัวแทนกลุ่มกิจกรรม ระบุว่า สาเหตุที่ต้องการยุติกิจกรรมดังกล่าว เนื่องจากไม่เชื่อมั่นเเละมองเห็นความไร้มาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม แม้พยายามเรียกร้องด้วยสันติวิธี เเต่กลับเห็นปัญหาในระบบยุติธรรมมากขึ้น จึงยกระดับข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปศาล-กระบวนการยุติธรรมให้มีความยุติธรรม และปล่อยนักโทษการเมืองอย่างไม่มีเงื่อนไข

นางสาวจิตรา คชเดช อดีตประธานสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ และนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตย หนึ่งในเครือข่ายของกลุ่มกิจกรรมที่มาร่วมการอดอาหาร ได้อ่าน "ปฏิญญาหน้าศาล" หน้าป้ายศาลอาญา ถ. รัชดาภิเษก ที่ชี้ให้เห็นปัญหาของกระบวนการยุติธรรมของไทยโดยเฉพาะกรณีการตัดสินของนายสนธิ ลิ้มทองกุล จากนั้นประชาชนเเละนักกิจกรรมได้ร่วมจุดเทียนสีเเดงเพื่อเป็นการยุติการอดอาหาร อย่างไรก็ตาม ทางเครือข่ายฯ มีโครงการจัดเสวนาทุกวันอาทิตย์บริเวณหน้าศาลอาญา เพื่อจัดทำข้อเสนอการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย เเละผลักดันให้มีการดำเนินการตามข้อเรียกร้องของปฏิญญาหน้าศาลต่อไป

อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็มได้ที่: หนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไท

 

'ปธ.ศาลปกครอง'ติงแก้รธน.รอบคอบ-กระทบศาล

นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะอาจมีการเปลี่ยนแปลงระบบโครงสร้างศาลปกครอง ว่า ถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจนว่าจะเป็นเช่นนั้น จึงยังไม่สามารถตอบได้ แต่มั่นใจเกิน 100 % ที่จะให้ศาลปกครองเป็นศาลหลักของประเทศ ที่คิดขณะนี้คือศาลปกครองจะมุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน ส่วนเรื่องอื่นจะเป็นอย่างไรเป็นเรื่องรอง เรื่องแก้รัฐธรรมนูญเราไม่อยู่ในสถานะที่จะทำอะไรได้ แต่ศาลปกครองก็ได้ตั้งคณะอนุกรรมการร่างกฎหมายตามแผนยุทธศาสตร์ มีหน้าที่ศึกษากฎหมายที่อาจมีผลกระทบต่อศาลปกครอง รวมถึงติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย ว่าการแก้ไขจะมีลักษณะเช่นใด ไปทางใด ขณะที่การทำหน้าที่ของศาลปกครองเป็นผู้วินิจฉัยตรวจสอบตามหลักนิติรัฐ ตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แม้ศาลจะเป็นองค์กรหนึ่งที่ใช้อำนาจสูงสุด แต่จะเห็นได้ว่าอำนาจของศาล ไม่ว่าศาลใดจะมีอำนาจเฉพาะในกรอบของคดีที่มีการฟ้องร้อง และกฎหมายที่เกี่ยวพันกับคดีที่ฟ้อง ซึ่งที่ผ่านมาศาลปกครองไม่เคยใช้อำนาจนอกกรอบของอรรถคดีนั้น ๆ แต่อย่างใด            

นายหัสวุฒิ กล่าวถึงกรณีที่มีการมองว่าคำสั่งของศาลปกครองเป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ว่า ต้องพูดให้ชัดว่าเป็นอุปสรรคอย่างไร ถ้าเป็นเรื่อง ม.67 วรรคสอง รัฐธรรมนูญ 2550 ที่เกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อม อยากถามว่ารัฐธรรมนูญ 2550 ใครเป็นคนร่าง ศาลปกครองไม่ได้เป็นคนร่าง ถึงได้บอกว่าศาลเป็นองค์กรตรวจสอบว่ามีการทำตามกฎหมายหรือเปล่า ศาลไม่ได้ตรวจสอบตามอำเภอใจ ก็ในเมื่อกฎหมายกำหนดไว้ให้ศาลทำหน้าที่ตรวจสอบก็ต้องทำตามกฎหมาย ศาลไม่ได้ทำเกินหน้าที่ ส่วนโครงสร้างของศาลปกครองจะเป็นอย่างไร ต้องถามประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ ไม่ใช่หน้าที่ของศาล แม้ศาลจะเป็นองค์กรหนึ่งที่ใช้อำนาจ 1 ใน 3 ตามหลักแบ่งแยกอำนาจ แต่โดยสภาพของอำนาจที่ศาลใช้ จะเห็นได้ว่าศาลไม่ได้มีอำนาจเหมือนองค์กรที่ใช้อำนาจอื่นที่จะต้องถ่วงดุลหรือที่จะต้องคานกัน เพราะการตรวจสอบเป็นการตรวจสอบสิ่งที่ฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติออกมาทั้งสิ้น ไม่ใช่ศาลเป็นผู้สร้างกฎกติกาเหล่านั้น รัฐธรรมนูญศาลก็ไม่ได้ร่าง  กฎหมายที่นำมาใช้บังคับคดีศาลก็ไม่ได้เป็นผู้ร่างเอง ถึงบอกว่าศาลไม่มีอำนาจอะไร ศาลทำหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม ยุติธรรมให้ทุกฝ่ายยอมรับ ดูได้จากผลสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อศาลปกครองสูงถึง 91% ถึงแม้สถิติการตัดสินคดีประชาชนจะชนะคดีน้อยกว่าเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ประชาชนก็ยอมรับคำตัดสินว่าถูกต้องแล้ว

“ผมอยากจะให้ย้อนกลับไปดูเจตนารมณ์ของการจัดตั้งศาลปกครองตามรัฐธรรมนูญ 2540 ซึ่งในขณะนั้นมีการปฎิรูปการเมืองครั้งใหญ่ด้วยเหตุผลใด และทำไมถึงต้องการให้มีการจัดตั้งศาลปกครองขึ้นมาเป็นระบบศาลคู่ ตอนนี้ผมคงตอบไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่อยากถามท่านว่ามูลเหตุที่มีเจตนารมณ์ที่ต้องการให้จัดตั้งศาลปกครองขึ้นมาเป็นศาลคู่ในขณะนั้น มูลเหตุดังกล่าวเหล่านั้นขณะนี้มันหมดไปแล้วหรือ ความต้องการที่จะให้มีศาลปกครองพิจารณาคดีปกครอง เป็นศาลคู่ไม่มีแล้วใช่ไหม ปี 2540 ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคดีปกครอง แต่มีแนวคิดว่าทำไมไม่ใช้ระบบศาลเดียว จนมีการจัดตั้งศาลปกครองขึ้นมาเป็นศาลคู่ ” ประธานศาลปกครองกล่าว

นอกจากนี้ นายหัสวุฒิยังให้สัมภาษณ์ถึงอำนาจสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระและระบบการตรวจสอบของศาลปกครอง

รายละเอียดดังกล่าว สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่: กรุงเทพธุรกิจ

 

ยุทธศักดิ์จ่อเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 จังหวัดใต้

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันนี้จะเสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงนามในแผนบูรณาการการทำงานร่วมกันของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)  ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) และตำรวจ เพื่อให้มีแนวทางการทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นอกจากนี้ การประชุม กอ.รมน.เมื่อวันศุกร์ที่ 2 มีนาคม 2555 ได้มีการอนุมัติให้ยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใน 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา และอีก 1 อำเภอในจังหวัดปัตตานี โดยให้เปลี่ยนมาใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรแทน หลังประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว พบว่ามีความสงบเรียบร้อยดี

รองนายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของ กอ.รมน.กำลังประเมินสถานการณ์ความรุนแรงในแต่ละพื้นที่ หากพื้นที่ใดมีความสงบเรียบร้อยก็จะประกาศยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพิ่มเติม แต่ขณะนี้ยอมรับว่ายังมีผู้ไม่หวังดี พยายามสร้างสถานการณ์ความไม่สงบอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เหตุเรื่องการแบ่งแยกดินแดน การเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ และความเสมอภาค แต่ในแผนบูรณาการการทำงานร่วมกันมียุทธศาสตร์ด้านการทำงานร่วมกันอยู่ 6 ข้อ รวมถึงมีแนวทางการดำเนินการตามแนวพระราชดำริ หากทุกหน่วยงานดำเนินงานตามเชื่อว่าจะทำให้สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้

ส่วนแนวคิดจะแบ่งพื้นที่ปกครองพิเศษ นั้น รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังต้องศึกษา ดูการแก้ไขปัญหา และกฎหมายให้รอบคอบมากที่สุด เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ที่มา: โพสต์ทูเดย์

 

ผบ.ทบ.ค้าน"เขตปกครองพิเศษใต้"

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์คัดค้านการเสนอร่างพ.ร.บ.ปัตตานีมหานคร ให้จัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษขึ้นใน 3 จังหวัดภาคใต้ โดยให้ความเห็นว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการปกครองแบบกระจายอำนาจอยู่แล้ว มีการเลือกตั้งในทุกระดับทั้ง อบต. อบจ. มีเพียงการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเท่านั้นที่ยังต้องจัดจากส่วนกลางเข้าไปดูแล ขณะนี้ถ้ามองว่าปกครองหรือดูแลพิเศษ  คำว่าเขตปกครองพิเศษนั้นหมายถึง การมีคณะองค์กรกฎหมายพิเศษในพื้นที่เหล่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีอยู่แล้วมีทั้งคณะทำงานแก้ปัญหา เช่น ศูนย์อำนวยการบริหารจัดการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในส่วนกฎหมายก็มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พรบ. ความมั่นคง  กฏอัยการศึก               

“ที่สำคัญต้องทำความเข้าใจกับประชาชน เกิน 99% ไม่ มีความต้องการในเรื่องนี้ ลองไปสอบถามประชาชนในพื้นที่ได้ เว้นเสียแต่ว่าถูกบังคับเขาจะตอบอีกแบบหนึ่ง แต่ประชาชนโดยส่วนรวมแล้วเขาไม่ได้เรียกร้อง และวันนี้การปฎิบัติหน้าที่ของทหาร ประชาชนพอใจเกิดความมั่นใจ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า  สิ่งที่เรียกร้องกันมาทุกวันนี้เพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้นเอง  ไม่ได้หวังดีต่อประเทศชาติเท่าไหร่นัก อีกกลุ่มหนึ่งคืออยากเข้ามามีส่วนร่วมมาแก้ปัญหา แต่ไม่ได้รู้ข้อเท็จจริง คนไทยไม่ว่าจะเป็นภาคไหนก็ตาม ไม่ได้เหมือนที่อื่น คิดแบบสากลก็ไม่ได้ คิดแบบประเทศอื่นไม่ได้เพราะคนไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะคือชอบอิสระเสรี จนบางครั้งก็ลืมไปว่าต้องมีกฎกติกา  

ที่มา: เดลินิวส์

 

ชาวนาเตรียมเฮ! รัฐชดเชยพื้นที่รับน้ำ10,600 ต่อไร่

นายเจษฎา แก้วกัลยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนงานการกำหนดพื้นที่รับน้ำนองและมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้พื้นที่เพื่อการรับน้ำนอง กล่าวว่า คณะทำงานได้ข้อสรุปแผนพื้นที่รับน้ำในระยะเร่งด่วนประจำปี 2555 แล้ว โดยกำหนดไว้ 53 แห่ง เนื้อที่รวม 3 ล้านไร่ โดยคาดว่า จะสามารถประกาศพื้นที่รับน้ำ และอัตราการจ่ายค่าชดเชยภายในวันที่ 15 มีนาคมนี้ 

สำหรับมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้พื้นที่การรับน้ำ นายเจษฎากล่าวว่า คณะทำงานจะคำนวณจากการใช้ประโยชน์จากที่ดินของเกษตรในช่วงกันยายน-พฤศจิกายน โดยได้กำหนดแนวทางการช่วยเหลือไว้ 3ขั้นบันได ดังนี้การจ่ายเงินตอบแทนในลักษณะเช่าพื้นที่อัตรา 600บาทต่อไร่ การให้หลักประกันกับเกษตรกรว่า ในช่วงฤดูนาปรังจะไม่ขาดน้ำ ส่วนฤดูนาปีจะต้องไม่มีน้ำท่วม ทั้งนี้ถ้าหากเกิดกรณีฉุกเฉินรัฐจะต้องจ่ายเงินช่วยเหลือกรณีพิเศษ ประมาณ 5,000บาทต่อไร่ กรณีภัยพิบัติเกิดก่อนช่วงเวลาที่จะประกาศรับน้ำนอง ซึ่งชาวนาเก็บข้าวในฤดูนาปีไม่ทัน ทางรัฐจะเข้าไปเจรจาให้หยุดปลูก โดยจะจ่ายเป็นค่าชดเชย 5,000บาทต่อไร่ รวมทั้งหมด 3แนวทาง เกษตรกรจะได้รับเงินชดเชยทั้งหมด 10,600บาทต่อไร่ นอกจากนี้ นายเจษฎา ยังกล่าวอีกว่า สำหรับเกณฑ์ในการให้เงินช่วยเหลือนั้น จะใช้วิธีคำนวณจากผลผลิตต่อไร่คูณด้วยราคารับจำนำ 15,000บาท และหักออกด้วยต้นทุนการผลิต แต่ทั้งนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าว ต้องรอความเห็นชอบจาก กยน. อีกครั้ง ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ กล่าวอีกว่า การกำหนดพื้นที่รับน้ำนองในระยะถาวรนั้น เบื้องต้นได้กำหนดพื้นที่ไว้ 2ล้านไร่ในพื้นที่ 13แห่ง โดยแบ่งเป็นพื้นที่เจ้าพระยาตอนบน 5แห่ง และเจ้าพระยาตอนล่าง 8แห่ง ซึ่งทางรัฐบาลจะลงทุนเป็นเงิน 60,000ล้านบาท เป็นงบประมาณในส่วนของพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 3.5แสนล้านบาท

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ

 

สถานทูตรุดช่วยคนไทยต้องโทษประหารชีวิต

นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ศาลชั้นต้นของมาเลเซียได้มีคำสั่งประหารชีวิต ในข้อหาลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศ ว่า ในระยะที่ผ่านมา มีคนไทยถูกศาลมาเลเซียสั่งประหารชีวิต ทั้งหมด 9 คน เป็นหญิง 8 ชาย 1 คน ส่วนใหญ่มีคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยคนไทยกลุ่มนี้มีความประสงค์จะยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อ ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนอยู่ในชั้นศาล โดยปกติกระบวนการยุติธรรมของมาเลเซียอาจจะใช้เวลานานกว่า 10 ปี ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้เข้าให้ความช่วยเหลือด้านกงสุลอย่างใกล้ชิด โดยได้จัดหาทนายความอาสา ล่าม อาหารและสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัว รวมทั้งแจ้งญาติให้ทราบข่าวเป็นระยะๆ

ที่มา: คมชัดลึก

 

ติงวัยรุ่นไทยแฟชั่น อินเทรนด์ไร้สติ "Nazi chic"

ตามรายงานข่าวของ CNNGo  (โพสต์เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์) พบแหล่งชอปปิ้งชื่อดังหลายแห่งในกรุงเทพ เช่น Terminal21 และถนนข้าวสาร จำหน่ายเสื้อยืดถอดคาแรคเตอร์ฮิตเลอร์ ทำท่าชูมือแบบกองทหารนาซีในเวอร์ชั่นการ์ตูนวัฒนธรรมป๊อป อาทิ “แมคฮิตเลอร์”  ในร่างโรนัลด์ แม็คโดนัลด์ (ของร้านแม็คโดนัลด์) ฮิตเลอร์หมีแพนด้า และฮิตเลอร์เทเลทับบีส์ โดยมีลูกค้าเป็นวัยรุ่นไทยซึ่งไม่ใส่ใจความหมายหรือสาส์นซึ่งซ่อนอยู่เบื้องหลัง

ในกรณีดังกล่าว CNNGo อ้างความเห็นของเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยว่า (ธุรกิจประเภทนี้) “กระทบกระเทือนจิตใจชาวยิว ซึ่งเป็นเหยื่อสงครามล้างเผ่าพันธุ์ของพรรคนาซี เยอรมนี” โดยท่านเอกอัครราชทูตซึ่งมีที่ตั้งทำเนียบในบริเวณใกล้กับ Terminal 21 ได้เดินทางไปพูดคุยกับเจ้าของร้านเสื้อยืดซึ่งมีตุ๊กตาแมคฮิตเลอร์หน้าร้าน ขอความร่วมมือให้ถอดหน้าฮิตเลอร์ออกจากหุ่น ซึ่งในเวลาต่อมา เจ้าของร้านได้สวมหน้ากากนักมวยปล้ำ Lucha Libre คลุมไว้

ทั้งนี้ ประเทศไทยเคยตกเป็นข่าวในเหตุการณ์ใกล้เคียงกันนี้หลายครั้ง ล่าสุดในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา คณะผู้แทนจากเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา ได้ตำหนิโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ที่ปล่อยให้กลุ่มนักเรียนแต่งตัวในเครื่องแบบนาซีและสัญลักษณ์สวัสดิกะในงานกีฬาสีโรงเรียน และเตือนให้ระบบการศึกษาไทยสอนประวัติศาสตร์โลกสมัยใหม่เกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ให้นักเรียนรับทราบอย่างถูกต้อง

ที่มา: CNNGo

 

สหรัฐเผยครั้งแรก"วาติกัน" แหล่งฟอกเงิน

รายงานประจำปีของกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ว่าด้วยยุทธศาสตร์การควบคุมและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ ระบุว่า นครวาติกัน ในฐานะเขตอำนาจตามกฎหมาย อันเป็นที่ตั้งของศาสนาสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ของคริสตศาสนิกชนนิกายโรมันคาทอลิคถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 68 ประเทศที่มีความเปราะบางอย่างยิ่ง(Country of Concern) ต่อการถูกใช้เป็นแหล่งฟอกเงิน  เช่นเดียวกับแอลเบเนีย สาธารณรัฐเช็ค อิยิปต์ เกาหลีใต้ มาเลเซีย เวียดนามและเยเมน โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่สันตสำนัก (Holy See) แห่งนี้ ถูกระบุชื่อไว้ในรายงานประจำปีของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ รายงานประจำปีของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ยังระบุรายชื่อประเทศที่อยู่ในข่ายดินแดนที่ถูกใช้เป็นแหล่งฟอกเงิน (Country of Primary Concern)รวม 66 ประเทศ รวมทั้ง อัฟกานิสถาน ออสเตรเลีย บราซิล หมู่เกาะเคย์แมน จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย สหราชอาณาจักร สหรัฐ อุรุกวัย และซิมบับเว

ที่มา: Huffingtonpost