ทนายแดงยื่นร้องศาลรธน.ตีความม.112โทษสูงไป
27 เม.ย. 2555 ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ว่าเมื่อเวลา 10.00 น. นายคารม พลทะกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยื่นหนังสือให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความผิดฐานหมิ่นสถาบัน ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 29 หรือไม่ เพราะไม่ได้มีการกำหนดโทษขั้นต่ำความผิด ตามกฎหมายอาญามาตรา 112 เมื่อเปรียบเทียบกับความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 116 ในหมวดว่าด้วยความมั่นคง ฐานละเมิดกฎหมายบ้านเมืองหรือยุยง ปลุกปั่น ให้คนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายที่คุ้มครองรัฐหรือประเทศชาติ แต่กลับไม่บัญญัติอัตราโทษขั้นต่ำ คือจำคุกไม่เกิน 7 ปี แต่กฎหมายอาญามาตรา 112 ได้กำหนดโทษไว้ไม่ต่ำกว่า 3 ปี จึงเห็นว่าหลักการบัญญัติ มาตรา 112 ไม่เป็นไปตามหลักสัดส่วนและทำให้สถานะของพระมหากษัตริย์อยู่เหนือกฎหมาย ซึ่งเป็นการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 29 นอกจากนี้ตามความผิดมาตรา 112 ยังไม่ให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาพิสูจน์ตนเองไม่ได้กระทำความผิด ขัดกับสถานะพระมหากษัตริย์ตามระบอบประชาธิปไตย ที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
สำหรับการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นนี้ สืบเนื่องมาจากกรณีที่ทนายความนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม นปช.ที่ถูกคุมขังและดำเนินคดีข้อหมิ่นสถาบัน และพยายามต่อสู้คดีพร้อมขอยื่นประกันตัวมาแล้วถึง 10 ครั้งแต่ศาลอาญายังไม่อนุญาตให้ประกันตัว ประกอบกับผู้ร้องเอง ได้ขอให้ศาลอาญา ส่งความเห็นของผู้ร้องมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ศาลอาญามีคำสั่ง ให้รอคำสั่งเมื่อมีคำพิพากษาก่อน ดังนั้นจึงไม่มั่นใจว่าจะมีการส่งความเห็นมาหรือไม่ จึงต้องยื่นเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
ที่มา: สำนักข่าวเนชั่น
จำคุก 2 ปี 6 เดือน! “สุรชัย แซ่ด่าน” หมิ่นเบื้องสูง
27 เม.ย. 55 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์สอบคำให้การจำเลยคดีหมายเลขดำ อ.1177/55 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายสุรชัย แซ่ด่าน หรือ ด่านวิวัฒนานุสรณ์ อายุ 70 ปี แกนนำกลุ่มแดงสยาม เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 6 เดือน บวกโทษเก่าจำคุกรวม 10 ปี
คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่าระหว่างวันที่ 5 ก.พ. - 6 ก.พ.54 เวลากลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยบังอาจปราศรัยบนเวทีชั่วคราวด้วยถ้อยคำหมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี และองค์รัชทายาท เหตุเกิดบนเวทีปราศรัยชั่วคราวที่ลานวัดสามัคคีธรรม ซ.ลาดพร้าว 64 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.
โดยศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังจนเป็นที่เข้าใจแล้วสอบถาม ซึ่งจำเลยแถลงให้การรับสารภาพไม่ต่อสู้คดี
ศาล พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พิพากษาจำคุก 5 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือน โดยให้นับโทษจำเลยต่อในคดีหมิ่นเบื้องสูงของศาลอาญาอีก 3 สำนวน คดีแดง อ.503/55, 504/55 และ 505/55 ที่ศาลพิพากษาจำคุก 7 ปี 6 เดือน รวมจำคุก จำเลยไว้ทั้งสิ้น 10 ปี
ที่มา : เอเอสทีวีผู้จัดการ
กลุ่มคนรักหมาจี้สภาฯดันกฎหมายป้องทารุณกรรมสัตว์
กลุ่มคนรักสุนัขในเครือข่ายโซเชียลเน็ทเวิร์ค นำโดย น.ส.เบญญสดา ฉิมสูงเนิน ได้ยื่นหนังสือต่อนายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เพื่อทวงถามความคืบหน้าในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและจัด สวัสดิภาพสัตว์ พร้อมกับออกแถลงการณ์ ประณามสมาชิกในรัฐสภาที่ไม่ใส่ใจแก้ไขปัญหาการทารุณกรรมสัตว์ โดยระบุว่าล่าสุดยังคงมีการยึดสุนัขของกลางหลายร้อยตัวเพื่อลักลอบขนไปยัง ประเทศเพื่อนบ้านด้าน จ.มุกดาหาร ซึ่งปัญหาเหล่านี้ยังคงซ้ำซาก และยังไม่เคยเห็นผู้แทนในรัฐสภาที่ยื่นกระทู้หรือตั้งญัตติอภิปราย ถึงปัญหาการค้าเนื้อสุนัขข้ามชาติอย่างชัดเจน ทั้งนี้กลุ่มคนรักสุนัขฯเล็งเห็นว่าหากยังไม่แก้ปัญหาอาจถูกดูแคลน ด้านความเป็นอารายชนทางอารยธรรมในสายตานานาชาติได้
ด้านนายอุดมเดช กล่าวภายหลังการรับหนังสือว่า ขณะนี้ ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ได้บรรจุเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระเร่งด่วนแล้ว ซึ่งก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎร
ที่มา : สำนักข่าวเนชั่น
คปก.จี้รัฐรับรองอนุสัญญา ILO เพื่อลดช่องว่างทางสังคม
นางสุนี ไชยรส รองประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย กล่าวในการเสวนา อนุสัญญา 87 และ 98 และกลไกแรงงานสัมพันธ์ เสนอให้รัฐบาลเร่งรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว และฉบับที่ 98 ที่ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวและการร่วมเจรจาต่อรอง โดยเร็วที่สุด เพื่อนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ ปี 2518 ให้เกิดการคุ้มครองผู้ใช้แรงงานทุกภาคส่วน เพราะสิทธิในการรวมตัวและการเจรจาต่อรอง ถือเป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหาแรงงาน และการลดช่องว่างทางสังคม
นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ระบุว่า ปัญหาสำคัญของกลไกแรงงสัมพันธ์ในปัจจุบัน คือการไม่รับรองอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และ 98 รวมทั้งการไม่เคารพกฎหมายของนายจ้าง จึงเป็นไปได้ว่า ยังคงมีการเลิกจ้างกรรมการสหภาพด้วยวิธีต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ รัฐบาลจึงควรเร่งรับรองอนุสัญญาฉบับนี้ เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานมีโอกาสในการเจรจาต่อรอง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ส่วนนายจ้างก็ต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับการรวมตัวเจรจาต่อรอง และเคารพกฎหมายให้มากขึ้น
ที่มา : เอเอสทีวีผู้จัดการ
นัดฟังคำพิพากษาคนงานถูกฟ้อง พ.ร.บ.คอมฯ 25 พ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 24-25 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ มีการสืบพยานโจทก์และจำเลย คดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายสงคราม ฉิมเฉิด พนักงานจัดส่งแก๊ส สาขาสมุทรสาคร บริษัท ไทยอินดัสเตรียลแก๊ส จำกัด (มหาชน) (ทีไอจี) ซึ่งเป็นอนุกรรมการสหภาพฯ ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามมาตรา 14 (1) ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
ธีรพันธุ์ พันธุ์คีรี ทนายจำเลย กล่าวว่า ในประเด็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยจะก่อความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน ได้นำสืบโดยชี้ว่า ไม่น่าจะผิดฐานนำเข้าข้อมูลเท็จ เพราะฝ่ายโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลในอีเมลดังกล่าวเป็นเท็จ โดยแม้จะมีพยานคนกลางในที่เกิดเหตุ 1 คนแต่ฝ่ายโจทก์กลับไม่มีการนำสืบ ส่วนการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ได้นำสืบว่า เมื่อสงครามยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาแล้วก็ส่งแฟกซ์ให้กรรมการสหภาพแรงงาน เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งสงครามไม่รู้ว่าจะมีการเผยแพร่ไหม เพราะเขาเองไม่ได้ใช้อีเมล ขณะที่พยานหลักฐานที่ฝ่ายโจทก์นำสืบ ก็ไม่มีใครยืนยันได้ชัดเจนว่าอีเมลที่ได้รับนั้นใครเป็นผู้ส่ง เพียงแค่คิดว่าเมื่อสงครามเป็นเจ้าของจดหมายก็น่าจะเป็นผู้ส่งหรือให้ใครส่งให้
อ่านเพิ่มเติม : ประชาไท
โพลชี้ค่าแรง 300 บาท ไม่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ผู้ใช้แรงงานดีขึ้น
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) สำรวจความเห็นเรื่อง “ชีวิตของแรงงานหลังได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท” เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ที่จะมาถึงในวันที่ 1 พ.ค.นี้ พบว่า ผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่ร้อยละ 79.1 ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันแล้ว ขณะที่ร้อยละ 20.9 ยังไม่ได้รับ โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า กิจการยังไม่อนุมัติปรับขึ้นค่าจ้างให้ เมื่อสอบถามผู้ที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทว่า ชีวิตการทำงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ ผู้ใช้แรงงานร้อยละ 82.4 ระบุว่ามีชีวิตการทำงานเหมือนเดิม ขณะที่ร้อยละ 15.4 ระบุว่าต้องทำงานหนักขึ้น มีเพียงร้อยละ 1.3 ที่ระบุว่าทำงานน้อยลง
ทั้งนี้ ผู้ใช้แรงงานเกือบครึ่ง หรือร้อยละ 49.9 ไม่เชื่อว่าการเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันจะทำให้กิจการที่ทำงานอยู่ต้องประสบกับภาวะขาดทุนหรือเลิกกิจการ ตรงกันข้าม ร้อยละ 23.0 เชื่อว่าจะทำให้กิจการมีกำไรจะเพิ่มขึ้น และร้อยละ 26.9 เห็นว่าจะกระทบทำให้กำไรลดลงเท่านั้น มีเพียงร้อยละ 1.4 เห็นว่าขาดทุน และร้อยละ 0.8 เห็นว่าจะเลิกกิจการ
อ่านเพิ่มเติม : เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์
กลุ่มแรงงานยื่นหนังสือทวงถามการผลักดันร่าง ก.ม.ประกันสังคม
น.ส.วิไลวรรณ แซ่เตีย รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ในฐานะประธานคณะทำงานผลักดันร่างกฎหมายประกันสังคม พร้อมด้วยแรงงานกว่า 20 คน เดินทางมายื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้เร่งพิจารณาร่างกฎหมายประกันสังคมที่ยังค้างในสภาฯ ให้ทันในสมัยประชุมนี้ แต่ไม่มีใครออกมารับหนังสือ เธอกล่าวว่า สาเหตุที่ต้องมาทวงถามความคืบหน้าการพิจารณาร่างกฎหมายประกันสังคมฉบับผู้ใช้แรงงาน หลังจากที่มายื่นหนังสือเรียกร้องให้มีการพิจารณาแล้วถึง 3 ครั้ง แต่วันที่ 8 วันที่ 22 มีนาคม และวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา ว่าเป็นเพราะตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ยังไม่มีการหยิบยกร่างกฎหมายประกันสังคม หรือร่างกฎหมายภาคประชาชนฉบับอื่นๆ มาพิจารณา ตามที่รัฐสภานำมาเป็นข้ออ้างในการขอขยายเวลาการประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัตปี 2555 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด มีเพียงการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น ดังนั้น จึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน รวมถึงคณะกรรมาธิการแรงงาน ออกมาให้ความชัดเจนและแสดงความจริงใจในเรื่องนี้
ทั้งนี้ น.ส.วิไลวรรณ ยืนยันว่า จะผลักดันร่างกฎหมายประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากนี้จะลงพื้นที่เพื่อให้ความรู้กับผู้ใช้แรงงาน เกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าว พร้อมทั้งจัดเวทีประชาพิจารณ์ รวมถึงหารือถึงมาตรการในการกดดันรัฐบาลต่อไป เพราะกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 14,264 คน เป็นผู้เสนอ
ที่มา : เอเอสทีวีผู้จัดการ
ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงในการตั้งโรงฆ่าสัตว์
24 เม.ย. 55 -ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตั้งโรงฆ่าสัตว์ โรงพักสัตว์ และการฆ่าสัตว์ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงในหมวดที่ 2 เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตั้งโรงฆ่าสัตว์และโรงพักสัตว์กำหนดให้สถานที่ตั้งโรงฆ่าสัตว์และโรงพักสัตว์ต้องอยู่ในทำเลที่เหมาะสม มีการคมนาคมที่สะดวก มีบริเวณเพียงพอต่อการประกอบกิจการโรงฆ่าสัตว์ โรงพักสัตว์ และการฆ่าสัตว์ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย เหตุรำคาญ หรือความเสียหายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น และห้ามตั้งอยู่ในบริเวณ เช่น บริเวณที่ห้ามตั้งโรงงานหรือห้ามตั้งโรงฆ่าสัตว์ตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง เป็นต้น กำหนดลักษณะของโรงฆ่าสัตว์ในบริเวณรอบนอกอาคาร โครงสร้างภายในอาคาร บริเวณภายในอาคาร เครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงฆ่าสัตว์ และลักษณะของโรงพักสัตว์
ส่วนหมวด 3 หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการฆ่าสัตว์ กำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการฆ่าสัตว์ในโรงฆ่าสัตว์ เช่น จัดให้มีการพักสัตว์ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม งดให้อาหารสัตว์ก่อนทำการฆ่าสัตว์ เป็นต้น กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการป้องกันการระบาดของโรคติดต่อ เช่น จัดให้มีการตรวจโรคสัตว์ภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงก่อนทำการฆ่าสัตว์ เป็นต้น รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการควบคุมสุขลักษณะส่วนบุคคลและสุขลักษณะในการปฏิบัติงาน
หมวด 4 วัน เวลาเปิดและปิดโรงฆ่าสัตว์ โรงพักสัตว์ และการฆ่าสัตว์ กำหนดให้หยุดทำการฆ่าสัตว์ในวันพระ ยกเว้นสัตว์ปีก และวันสำคัญตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
ที่มา : สำนักข่าวเนชั่น
มท.สั่งผู้ว่าฯห้ามอนุมัติการพนันช่วงวันสำคัญ
ที่กระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) ปฏิบัติตามแนวทางการควบคุมวันอนุมัติ อนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในระเบียบกฎหมายและคำสั่งที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็นแนวทางในการใช้ดุลพินิจควบคุมการพนันให้มีความเหมาะสมและไม่มีลักษณะเป็นการมอมเมาประชาชน ได้แก่
1.การพนันให้สัตว์ต่อสู้หรือแข่งขัน 2.การพนันชกมวย มวยปล้ำ และการพนันในงานกาชาด เช่น ชี้เป้า โยนห่วง ตกเบ็ด จับสลาก หรือบิงโก 3.การจัดทำสลากบำรุงการกุศลและสลากกาชาด และ4.การพนันอื่น ๆ
ทั้งหมดนี้ อนุญาตให้มีการเล่นในวันหยุดราชการเท่านั้น และห้ามอนุมัติ ให้มีการเล่นการพนันในวันสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะวันสำคัญทางศาสนา วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชหรือวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ วันฉัตรมงคล วันปิยมหาราช วันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวันเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา และในวันอื่นๆ ที่คณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีนโยบายสั่งห้ามเอาไว้
"ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกวดขันให้เจ้าหน้าที่ถือปฏิบัติตามกฎหมายและข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด หากพบการฝ่าฝืนหรือการกระทำผิดตามกฎหมาย ให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาดทันที"นายยงยุทธกล่าว
ที่มา : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
ตร.เร่งประสานกทม.ขึ้นทะเบียนวิน จยย.เถื่อนให้ถูกกม.
นายวัน อยู่บำรุงพร้อมคณะทำงานที่ปรึกษารมว.คมนาคม พร้อมตัวแทนผู้ขับขี่รถจยย.รับจ้าง ในพื้นที่กทม.ที่ประสบภาวะเดือดร้อนจากการตั้งวินเถื่อนและถูกข่มขู่รีดไถจำนวนหนึ่งเตรียมเข้าหารือกับพล.ต.ท.วินัยทองสองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ปราบปรามมาเฟียผู้มีอิทธิพลและงานด้านการจราจรโดยมีตัวแทนจาก กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือแนวทางแก้ปัญหาร้องเรียนผู้มีอิทธิพลข่มขู่รีดไถตั้งวินเถื่อนไม่ถูกกฎหมายภายในห้องประชุมปารุสกวัน ชั้น2อาคารบช.น.พร้อมรับฟังรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาและมาตรการปฏิบัติของตำรวจนครบาลช่วงที่ผ่านมามีข้อมูลร้องเรียนทั้งหมด18 เรื่องเกิดขึ้นใน 14 ท้องที่คือ สน.พญาไท สน.มักกะสัน สน.ห้วยขวาง สน.สุทธิสาร สน.พหลโยธิน สน.ประเวศน์ สน.อุดมสุข สน.วังทองหลาง สน.ลาดพร้าว สน.บางนา สน.พระขโนง สน.คลองตัน สน.บางขุนนนท์ และสน.ราษฎร์บูรณะ จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดทุกข้อร้องเรียนในแต่ละพื้นที่ความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาต่างๆ แล้ว
พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ( รองผบช.น.)รับผิดชอบงานด้านการจราจร ยืนยันว่า ได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบงานด้านจราจรทุกนายในพื้นที่นครบาล ห้ามเข้าไปไม่ให้ยุ่งเกี่ยวหรือเรียกรับผลประโยชน์จากกลุ่มมาเฟียผู้มีอิทธิพลวินรถจักรยานยนต์รับจ้างอย่างเด็ดขาด พร้อมออกคำสั่งให้ทุก สน.กวดขัน รณรงค์ ผู้ขับขี่ให้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดพร้อมคาดโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย หากพบเห็นหรือได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและมีพยานหลักฐานยืนยันการกระทำผิดหรือมีการสอบสวนไปถึงจะถูกพิจารณาโทษทางปกครองทันที พร้อมตั้งกรรมการสอบพิจารณาโทษทางวินัยและอาญา ความผิดสูงสุด คือ พิจารณาให้ออกจากราชการการด้วย
ที่มา : สำนักข่าวเนชั่น
เล็งล่าชื่อหนุนตั้งกระทรวงรถไฟ
อนุกมธ.รัฐวิสาหกิจโวประชาชนสนับสนุนตั้งกระทรวงรถไฟ เล็งล่า 25,000 ชื่อผลักดันกฎหมายเข้าสภา
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะโฆษกคณะอนุกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการ ฯ ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการตั้งกระทรวงการรถไฟ ในเบื้องต้น พบว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่ง และมีประชาชนสนับสนุนจำนวนไม่น้อย ทำให้คณะอนุกรรมการฯ มีแนวคิดที่จะรณรงค์และศึกษาความต้องการของประชาชนในเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ทั้งนี้เพื่อระดมรายชื่อประชาชน 25,000 คน เพื่อร่วมเข้าชื่อผลักดัน พ.ร.บ.จัดตั้งกระทรวงรถไฟ เข้าสู่สภา โดยประชนที่สนใจสามารถเข้าร่วมฟังการสัมมนา "ก้าวสู่ทศวรรษใหม่ การรถไฟ"ซึ่งจะจัดขึ้น ช่วงต้นเดือน พค นี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อรองรับการยกฐานะขึ้นเป็นกระทรวงการรถไฟ โดยจะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ ประกอบด้วย รมว คมนาคม ผู้บริหารการรถไฟฯ ตัวแทนสหภาพพนักงานการรถไฟฯ ตลอดจน นักวิชาการ สื่อมวลชน และภาคประชาชน ร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย
ที่มา : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
แรงงานนอกระบบร้อง คปก.ชงคลอดกฎกระทรวงคุ้มครอง
24 เม.ย.55 สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย - ผู้แทนเครือข่ายแรงงานนอกระบบ คนทำงานบ้านจากหลายจังหวัด เช่น ขอนแก่นปัตตานี เชียงราย และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพกว่า 30คน เข้าพบ คปก. โดยนางสุนี ไชยรส ศ.ดร.เสาวนีย์ อัศวโรจน์ นายชัยสิทธิ์ สุขสมบูรณ์ นายไพโรจน์ พลเพชร และดร.โชคชัย สุทธาเวศ คณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงและพัฒนากฎหมายด้านสวัสดิการสังคม เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2555 ขอให้เร่งรัดกระทรวงแรงงานออกกฎกระทรวงตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ. 2553 ซึ่งกำหนดว่าต้องจัดตั้งคณะกรรมการมากำกับภายใน 120 วัน รวมทั้ง ออกกฎ ระเบียบอีกหลายฉบับ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 แต่ไม่มีการดำเนินการใด โดยพ.ร.บ.ประกาศเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2553 มีผลบังคับใช้หลังจากนั้น 180 วัน คือในวันที่ 15 พฤษภาคม 2554
ทั้งนี้ความล่าช้าดังกล่าวส่งผลให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านไม่สามารถใช้สิทธิตามกฎหมายรับรองและคุ้มครอง เช่น ค่าจ้างขั้นต่ำ ความปลอดภัยในการทำงาน และสุขภาพของแรงงานนอกระบบ ฯลฯ ทำให้แรงงานนอกระบบไม่สามารถใช้สิทธิ สูญเสียโอกาสและประโยชน์ที่ควรจะได้รับจากสิทธิที่กฎหมายรับรองและคุ้มครองแม้พระราชบัญญัติที่มีผลบังคับใช้มากว่าหนึ่งปีแล้ว
นอกจาก แรงงานทำงานบ้านที่ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541ยกเว้นไม่คุ้มครอง ไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิในกฎหมายประกันสังคม ทั้งที่มีอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 189 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับแรงงานทำงานบ้าน และข้อเสนอแนะฉบับที่ 201 คนทำงานบ้านยังถูกโกงค่าแรง ถูกล่วงละเมิดทางเพศจากนายจ้าง บางส่วนปกป้องสิทธิตนเองได้ยากลำบากเพราะกลัวถูกเลิกจ้าง บางรายสะท้อนว่าเมื่อถึงยามอายุมาก ไม่มีใครดูแล ต้องอาศัยพี่น้อง และรับจ้างทำงานเล็กๆน้อยๆ
อย่างไรก็ตามหลังจากรับฟังแล้วคณะกรรมการฯ จะเชิญผู้แทนจากกระทรวงแรงงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงการบังคับใช้พ.ร.บ.คุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน สาเหตุของความล่าช้าในการออกกฎกระทรวงต่างๆ เพื่อคุ้มครองสิทธิผู้รับงานไปทำที่บ้านและคนทำงานบ้านตามกฎหมาย ต้นเดือนพฤษภาคมนี้
ที่มา : ประชาไท
แฉ! เจ้าหน้าที่รัฐฮั้วค้ามนุษย์ จ้องสูบเลือด'โรฮิงยา'
สภาทนายความแฉ เจ้าหน้าที่รัฐไทยร่วมรู้เห็นค้ามนุษย์ ซ้ำเติมชาวโรฮิงยาไร้รัฐ เด็กหญิงถูกกดขี่ทางเพศด้วยเงินเพียง 1 แสนจ๊าด แนะปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม-กฎหมาย ด้านดีเอสไอเสนอปรับปรุง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตรา 55 พร้อมสนับสนุนการเดินเรือไม่ให้เข้าไทย ชี้หากปล่อยปัญหายิ่งบานปลาย ทั้งยาเสพติด ก่อการร้าย และค้ามนุษย์
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ และมูลนิธิกระจกเงา จัดเสวนาเรื่อง "โรฮิงยา ชะตากรรมที่เลือนลางอนาคตที่ว่างเปล่าและการจัดการของรัฐไทย" โดยมีภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ได้รับผลกระทบ เข้าร่วมเสวนา
นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ กล่าวว่า แม้รัฐบาลไทยจะเริ่มเห็นความสำคัญของปัญหาชาวโรฮิงยามากขึ้น แต่ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง อีกทั้งยังเข้าใจเรื่องผู้อพยพชาวโรฮิงยาคลาดเคลื่อน เพราะคิดว่าประเทศไทยเป็นเพียงทางผ่านไปสู่ประเทศมาเลเซีย แต่การผ่านเข้าประเทศไทยจะมีการจ่ายค่านายหน้าคิดเป็นเงินไทยประมาณ 6 หมื่นบาท โดยมีนายหน้ารายใหญ่ที่รู้จักกันดีคือ นายอับดุล ราฮิม ชาวโรฮิงยา แต่มีบัตรประจำตัวชาวบังกลาเทศ พม่า และไทย
อ่านเพิ่มเติม : ไทยรัฐออนไลน์
ชง ก.ม.ห้ามก๊งเหล้าในโรงงาน-ท้ายรถ
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข น.ส.ประนอม เชียงอั๋ง ผู้ประสานงานเครือข่ายโรงงานสีขาว ลด ละ เลิกเหล้า พร้อมด้วยนายจะเด็จ เชาวน์วิไล ที่ปรึกษาเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมกับเครือข่ายกว่า 30 คนได้เข้าพบนายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข เพื่อเรียกร้องให้ผลักดันร่างกฎหมายห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในพื้นที่ประกอบกิจการโรงงานและห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถ ถนนและทางสาธารณะ โดยนายวิทยารับปากจะพิจารณา
ด้าน นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะ กรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กล่าวว่าในวันที่ 4 พ.ค. จะมีการขอความเห็นชอบคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในการออกกฎหมาย 1.ห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางสาธารณะ ฟุตปาท ไหล่ทาง ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงบนรถ และท้ายรถกระบะด้วย 2.ห้ามดื่มและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผสมน้ำผลไม้ หรือเหล้าปั่นในสถานที่ห้ามขาย 3.ห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโรงงาน และ 4.ห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ ซึ่งหากเห็นชอบวันที่ 10 พ.ค.จะเสนอคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติก่อนเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนามออกเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป
ที่มา :ไทยรัฐออนไลน์
ถกรธน.วาระ 2 เลื่อนยาว พิจารณาต่อ 30 เม.ย.
ถก รธน.วาระ 2 เลื่อนยาว พิจารณาต่อ 30 เม.ย.อ้างเปิดโอกาสให้สภาผู้แทนราษฎรประชุมพิจารณากฎหมายตามปกติ มั่นใจไม่มีบล็อกโหวตเลือก ส.ส.ร.สรรหา 22 คน ชี้กดบัตรลงคะแนนแทนกันเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่กระทบร่างรัฐธรรมนูญ
วันที่ 25 เม.ย.ที่รัฐสภา นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานคณะกรรมการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม กล่าวถึงกรอบเวลาการประชุมพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 2 ว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา มีดำริว่า หลังจากการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 25 เม.ย.จะให้พักการประชุม และไปประชุมต่ออีกครั้งในวันที่ 30 เม.ย.ดังนั้นการลงมติในวาระ 3 จึงต้องเลื่อนออกไปอีก โดยยังไม่มีการกำหนดเวลา ส่วนวันที่ 26 เม.ย.จะเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรตามปกติ เนื่องจากมีวาระกฎหมายและกระทู้ค้างอยู่ ส่วนการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญขณะนี้ยังค้างมาตราย่อยอยู่ 12 มาตรา โดยมาตราที่มีปัญหาคือ มาตรา 291/6 ที่ให้รัฐสภาเลือก ส.ส.ร. 22 คน ซึ่งบางฝ่ายกลัวว่าจะเกิดการบล็อกโหวต แต่มั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาดังกล่าว เพราะเชื่อในกระบวนการคัดเลือกขององค์กรต่างๆ
ส่วนปัญหาการกดบัตรลงคะแนนแทนกันนั้น นายสามารถระบุ มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเสียงที่เห็นชอบในแต่ละมาตราเกิน 300 เสียง หากมีการกดบัตรแทนกันจริง ถือเป็นเสียงบางส่วนเท่านั้น เป็นความผิดเฉพาะตัวเรื่องจริยธรรม โดยพรรคเพื่อไทยจะมีบทลงโทษตั้งแต่การตักเตือนถึงขั้นหนักสุดคือ การไม่ส่งลงสมัครเลือกตั้ง
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
ป.ป.ช.บี้จริยธรรมนักการเมือง คุมเข้มรับของเกิน3พัน
“วิชา” สวดยับหลักสูตรวิชากฎหมายในมหาวิทยาลัยสุดล้มเหลว จวกไม่เข้มงวดปลูกฝังจริยธรรม แนะรื้อระบบการสอนใหม่ทั้งหมด คุมเข้มจริยธรรมนักการเมือง ประกาศบังคับใช้กฎหมายห้ามรับของกำนัล 3 พันบาทอย่างเข้มงวด
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) มีการสัมมนางานวิจัยเรื่อง “จริยธรรมในวิชาชีพกฎหมาย” โดยนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะหัวหน้าคณะผู้วิจัย กล่าวว่า จริยธรรมในวิชาชีพกฎหมายไทยมีปัญหา เมื่อเทียบกับต่างประเทศถือว่าล้มเหลว เพราะไม่มีการสร้างรากฐานมาตั้งแต่มหาวิทยาลัย หลักสูตรแต่ละมหาวิทยาลัยสอนเรื่องจริยธรรมแบบขอไปที ไม่เหมือนต่างประเทศที่เป็นมืออาชีพ สอนให้ยึดมั่นในความยุติธรรม เคารพหลักนิติรัฐ และไม่มีอคติต่อคนกลุ่มน้อยและด้อยโอกาส ซึ่งไม่เคยมีในมหาวิทยาลัยไทย จึงจำเป็นต้องรื้อระบบใหม่ทั้งหมด เพราะการไปต่อยอดในวิชาชีพทนายความ อัยการ หรือศาลได้ ในมหาวิทยาลัยต้องทำให้ดีก่อน ส่วนปัญหาจริยธรรมนักการเมืองเรื่องภาพโป๊ กดบัตรแทนกันเพราะไม่ได้รับการสอนจริยธรรมสำหรับนักการเมืองคืออะไร
"ดังนั้น หลังจากนี้ ป.ป.ช.จะเข้มงวดการใช้กฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 100 เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และมาตรา 103 ที่ห้ามรับผลประโยชน์มิควรได้ มูลค่าเกิน 3,000 บาท ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ไม่เข้มงวดเรื่องนี้มาก แต่หลังจากนี้จะออกประกาศ ให้เวลา 6 เดือนในการบังคับใช้อย่างเข้มข้น และจะมีการตั้งหน่วยงานขึ้นมาให้คำปรึกษา เพราะหาก ป.ป.ช.เป็นผู้ชี้เอง เกรงว่าจะถูกเหยียบ" นายวิชา กล่าว
โดย ไทยรัฐออนไลน์