หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในศาล ส่งผลกระทบต่อคู่ความ และส่งผลกับกระบวนการยุติธรรม การจดบันทึก การอ่านรายงาน หรือการแสดงความคิดเห็นของศาล บางกรณีที่บิดเบี้ยวมากๆ เมื่อเกิดขึ้นซ้ำๆ กันทำให้ความเลื่อมใสในกระบวนการยุติธรรมเสียไป
ทางหนึ่งที่จะรักษาสถานภาพไว้ คือ ศาลยุติธรรมต้องดำเนินกระบวนพิจารณาคดีอย่างโปร่งใส นอกจากจะเปิดให้คนนอกเข้าฟังได้แล้ว บางคดีที่มีรายละเอียดเยอะๆ ไม่สามารถจดบันทึกได้ทันทั้งหมด ก็น่าจะให้อัดเสียงได้ (บางศาลไม่อนุญาตให้ผู้สังเกตการณ์จดด้วยซ้ำ)
เพราะบางครั้งสิ่งที่ผู้พิพากษาทำ หรือพูด หรือแสดงความเห็น ซึ่งไม่ถูกต้องตามความจริงและตามกฎหมาย ไม่เคยถูกบันทึกไว้ในรายงานกระบวนพิจารณา สิ่งที่เกิดขึ้นเร็ว คนจดก็จดไม่ทัน หรือถึงจดไว้ได้ทันก็ไม่มีความน่าเชื่อถือว่าเกิดขึ้นจริง เพราะฉะนั้น การอนุญาตให้อัดเสียงได้จะทำให้มีหลักฐานว่าอะไรบ้างที่เกิดขึ้นในห้องขณะนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้พิพากษาหรือบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่มากขึ้นอย่างแน่นอน
เนื่องจากมีความกังวลว่า ฝ่ายที่สืบพยานยังไม่เสร็จจะเอาเสียงที่อัดไว้ไปเปิดให้พยานปากต่อไปฟังก่อน เืพื่อเตรียมมาโกหกให้เหมือนกันได้ ดังนั้น ก็ไม่คงไม่ลำบากเกินไป หากว่าศาลจะีมีกติกาสำหรับการอนุญาตให้อัดเสียงว่าต้องขออนุญาตก่อน หรือต้องระบุตัวผู้จะทำการอัดเสียงต่อเจ้าหน้าที่ของศาลก่อน หรือออกกฎให้เอาเครื่องอัดเสียงมาวางรวมกันที่เดียวก็ได้
ซึ่งทั้งหมดนี้ นอกจากจะทำให้การรายงานเรื่องราวในห้องพิจารณาออกไปยังสาธารณะอย่างถูกต้อง ครบถ้วน โดยมีหลักฐานอ้างอิงแล้ว ยังจะทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ถูกบันทึกไว้อย่างถูกต้อง และปฏิเสธไม่ได้อีกว่าไม่ได้เกิดขึ้น
ป.ล. ถ้าจะนำไปสู่การบันทึกวีดีโอด้วยเลย ก็จะยิ่งดีใหญ่