รอบอาทิตย์ที่สอง มิ.ย. 56 : อุทธรณ์ยืนจำคุก 15 ปี “ดา ตอร์ปิโด” ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง‏

รอบอาทิตย์ที่สอง มิ.ย. 56 : อุทธรณ์ยืนจำคุก 15 ปี “ดา ตอร์ปิโด” ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง‏

เมื่อ 14 มิ.ย. 2556
อุทธรณ์ยืนจำคุก 15 ปี “ดา ตอร์ปิโด” ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง‏
ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำที่ อ.3959/2551 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือดา ตอร์ปิโด อายุ 55 ปี แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และพระราชินี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก 3-15 ปี
       
โจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า ระหว่างเดือน ม.ค.-มิ.ย. 2551 เวลากลางคืน จำเลยขึ้นปราศรัยบนเวทีเสียงประชาชน ณ ท้องสนามหลวง ด้วยการกระจายเสียงทางเครื่องขยายเสียง ท่ามกลางประชาชนที่มาฟังจำนวนหลายคน โดยกล่าวคำพูดจาบจ้วง ล่วงเกิน เปรียบเทียบและเปรียบเปรย หมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และทำให้สถาบันฯเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง โดยเจตนาจะทำให้ประชาชนไม่เคารพ เสื่อมศรัทธา เหตุเกิดที่แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม
 
สมาพันธ์นักเรียนไทยฯ ประณามโรงเรียนดื้อตัดเกรียน - พร้อมยืนยันจะสู้ต่อไป
ตามที่สมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย ได้รวมกันเคลื่อนไหวเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการยกเลิกบังคับไว้การทรงนักเรียน กระทั่งต่อมา แม้กระทรวงศึกษาธิการจะมิได้ทำตามข้อเรียกร้อง แต่ได้ผ่อนปรนด้วยการออกระเบียบกฎกระทรวงฉบับใหม่ และมีหนังสือสั่งการถึงหัวหน้าส่วนราชการที่มีสถานศึกษาในสังกัดให้นักเรียนชายไว้ผมรองทรง และนักเรียนหญิงไว้ผมยาวได้ ทันทีที่เปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2556 และสถานศึกษาใดไม่ปฏิบัติตามให้ร้องเรียนมาที่กระทรวงศึกษาธิการ แต่ล่าสุดยังพบโรงเรียนหลายแห่งที่ไม่ปฏิบัติตามนั้น
 
ล่าสุด "สมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย" ได้ออกแถลงการณ์ "ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีทรงผมที่ยังมีอยู่ในโรงเรียนและการต่อสู้สิทธิทรงผมจะยังคงดำเนินต่อไป" ถึงนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
ที่มา: ประชาไท
 
‘4 Laws For Poor’ ชู 4 นิ้ว สนับสนุน 4 ร่างกฎหมายคนจน
คนรุ่นใหม่รณรงค์ชู 4 นิ้ว ‘4 Laws For Poor’ ในสังคมออนไลน์ เพื่อให้เกิดกระแสการติดตามข้อมูลข่าวสารสนับสนุนร่างกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาคนจน 4 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.สิทธิชุมชน พ.ร.บ.ธนาคารที่ดิน พ.ร.บ.ภาษีทีดินอัตราก้าวหน้า พ.ร.บ.กองทุนยุติธรรม
ที่มา: ประชาไท
 
ออสซี่เผยร่างกม.เพื่อคน “ไร้เพศ”
นายมาร์ค เดรย์ฟัส อัยการสูงสุดของรัฐบาลแคนเบอร์รา แถลงเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าว ที่จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. นี้ว่า จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน เมื่อต้องกรอกเอกสารหรือเดินทางไปติดต่อยังหน่วยงานทั้งของราชการและเอกชน โดยจะมีการเพิ่มช่องทำเครื่องหมายในเอกสารให้เลือกระหว่างเพศชาย ( M ) เพศหญิง ( F ) หรือ “ไม่แน่ชัด” ( X )
 
โดยผู้ที่มีความประสงค์จะเปลี่ยนเพศเป็นแบบไม่แน่ชัดหรือระบุไม่ได้ ที่จะมีผลย้อนหลังถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลในอดีตทั้งหมด นอกจากต้องยื่นคำร้องต่อรัฐบาลกลาง พร้อมหนังสือเดินทางเล่มจริง ( ถ้ามี )  และสูติบัตรแล้ว ยังต้องแสดงหนังสือรับรองอย่างเป็นทางการจากแพทย์หรือนักจิตวิทยา ที่ระบุเหตุผลที่เหมาะสมในการเปลี่ยนเพศโดยละเอียด นอกจากนี้ ผู้ยื่นคำร้องสามารถนำเอกสารอื่นนอกเหนือจากนี้มาแสดงร่วมด้วยได้ แต่ผลการพิจารณาขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของเจ้าหน้าที่รัฐ
 
อย่างไรก็ตาม การเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ และ/หรือการรับประทานฮอร์โมน ยังไม่สามารถนำมาใช้เป็นเหตุผลในการยื่นคำร้องขอเปลี่ยนเพศได้
 
คลอดยุทธศาสตร์ความปลอดภัยไซเบอร์ เผยครึ่งปีแฮคเว็บราชการพันกว่าครั้ง
ภายหลังการประชุม น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) พร้อมด้วยนางสุรางคณา วายุภาพ ผอ.สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ.  ร่วมกันแถลง โดย นอ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า  ที่ประชุมให้ความเห็นชอบยุทธศาสตร์หลัก 3 ด้าน ได้แก่ 1.การบูรณาการการจัดการความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ  2.การสร้างศักยภาพในการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินทางความมั่นคงปลอดภัยไซ เบอร์ 3.การปกป้องโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศของประเทศ
 
นอกจากนี้ยังเห็นชอบยุทธศาสตร์รอง 5 ด้าน อาทิ การประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เป็นต้น
 
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ทั้ง 8 ข้อนี้จะเป็นกรอบการพัฒนาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์สำหรับประเทศไทยใน 5 ปีข้างหน้า โดยมี สพธอ.เป็นฝ่ายเลขานุการ นอกจากนี้จะได้มีการแจกสติกเกอร์ “ทำอย่างไรเมื่อเว็ปไซด์ถูกแฮก” ไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อรับมือกับกรณีที่ถูกแฮกเกอร์เข้าไปก่อกวน ซึ่งหากพบว่าถูกแฮกให้ดำเนินการใน 4 ขั้นตอนคือ 1.ห้ามแตะต้องหรือเข้าถึงเครื่องบริการ 2.ตัดการเชื่อมต่อเครือข่าย โดยถอดสายแลนออก 3.รายงานผู้บังคับบัญชา และ4.โทรปรึกษาศูนย์ฮอตไลน์ ThaiCERT 1212
ที่มา: ประชาไท
 
กัมพูชาออก ก.ม.ใหม่ เอาผิดผู้ไม่ยอมรับความโหดร้ายเขมรแดง
กัมพูชาออกกฎหมายฉบับใหม่ กำหนดโทษผู้ที่ไม่ยอมรับความโหดร้ายของเขมรแดงที่คร่าชีวิตชาวกัมพูชาเกือบ 2 ล้านคน
 
ทั้งนี้ กฎหมายฉบับดังกล่าวของกัมพูชา กำหนดว่า บุคคลใดก็ตามที่ไม่ยอมรับถึงความโหดร้ายทารุณของรัฐบาลเขมรแดงที่เคยเรืองอำนาจ ระหว่างปี 2518-2522 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวมีชาวกัมพูชาราว 2 ล้านคน ล้มตายจากการถูกสังหารและทำทารุณกรรม โดยผู้ที่ทำผิดกฎหมายนี้จะถูกลงโทษจำคุกสูงสุดถึง 2 ปี
 
กฎหมายดังกล่าวมีนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นผู้เสนอเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากพบว่ารองหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านระบุว่า นิทรรศการเรือนจำตวลสเลง ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด แต่เป็นการจัดฉากของเวียดนามที่ต้องการตอกย้ำให้เห็นถึงความโหดร้ายที่เกินจริงของเขมรแดง เพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่เวียดนามในการเข้ายึดครองกัมพูชา
 
"ขุนค้อน"เมินศาลรธน. สั่งแจงเพิ่ม แก้ม.68
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญให้ส่งคำชี้แจงเพิ่มเติมภายใน 15 วัน กรณีที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ว่ายืนยันว่าตนจะไม่ส่งคำชี้แจง ตามที่ได้แสดงท่าทีก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเห็นด้วยกับท่าทีของพรรคเพื่อไทยที่เห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจดำเนินการเรื่องนี้ ส่วนจะเป็นงัดข้อกับศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น เห็นว่าเป็นเรื่องของความคิดเห็นที่ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ตามรัฐธรรมนูญ
 
 
รบ.สวีเดนจ่อบังคับใช้กฎหมายห้าม “คนสมสู่กับสัตว์”
นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2014 เป็นต้นไป พฤติกรรมมีเพศสัมพันธ์ใดๆ กับสัตว์จะถูกปรับและจำคุกสูงสุด 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ แม้ว่าสัตว์เหล่านั้นไม่ได้รับบาดเจ็บหรือแสดงออกถึงความทุกข์ทรมานก็ตาม ด้วยคาดหมายว่ารัฐสภาสวีเดนจะลงมติผ่านร่างพระราชบัญญัติเป็นกฎหมายเร็ววัน เนื่องจากเหล่านักการเมืองทั้งหลายมีความเห็นพ้องในประเด็นนี้
 
“เป็นเรื่องเยี่ยมมากที่มีการแก้กฎหมายนี้” โฆษกของสหพันธ์สัตวแพทย์สวีเดนกล่าว “มันสำคัญอย่างยิ่งที่สังคมต้องประกาศอย่างชัดแจ้งว่าการใช้สัตว์สนองความใคร่เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้”
 
ทั่วโลกประชุมยกเลิกโทษประหารชีวิตครั้งที่ 5 ที่มาดริด
การประชุมโลกเพื่อการยกเลิกโทษประหารชีวิตครั้งที่ 5 (5th World Congress against the Death Penalty) ได้เริ่มขึ้นแล้วที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมทั้งหมดราว 1,500 ทั้งตัวแทนจากรัฐบาล นักกฎหมาย ภาคประชาสังคม องค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงครอบครัวของผู้ที่ถูกตัดสินประหารชีวิต การจัดงานครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือของภาคีเพื่อการต่อต้านโทษประหารชีวิต (Together  against the Death Penalty) ซึ่งเป็นองค์กรรณรงค์ไม่หวังผลกำไรของประเทศฝรั่งเศส พร้อมการสนับสนุนจากรัฐบาลสเปน ฝรั่งเศส นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ มีจุดมุ่งหมายร่วมกันเพื่อยกเลิกโทษประหารชีวิตในประเทศที่ยังคงมีการใช้อยู่
 
ในพิธีเปิดการประชุมดังกล่าว นอกจากจะมีการกล่าวเปิดจาก ราฟาเอล เชนิล ฮาซาน ผู้อำนวยการองค์กรภาคีเพื่อการยกเลิกโทษประหารชีวิต นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ และอาร์คบิชอบเดสมอนด์ ตูตู ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพเมื่อปี 1984 ผ่านทางวีดีโอ และมีการเสวนาโดยมีรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสเปนและฝรั่งเศส รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของสเปน และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของนอร์เวย์ ร่วมพูดคุยถึงความมั่นหมายของประเทศดังกล่าว ต่อภารกิจที่มุ่งยกเลิกโทษประหารชีวิตทั่วโลก
ที่มา: ประชาไท