กฎหมายหมวกกันน็อค ช่วยแก้ปัญหาให้รัฐแต่เพิ่มหาให้ประชาชนหรือเปล่า?
สาเหตุการเสียชีวิตที่เกิดจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่เกิดจากสมองกระแทกกับพื้นโดยตรงและไม่มีเครื่องป้องกัน จากปัญหาที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้ในปี 2537 -2538 นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในขณะนั้นเสนอให้ประเทศไทยมีกฎหมายบังคับใส่หมวกกันน็อคและเสนอเรื่องต่อคณะ จนกระทั่งต่อมาไทยประกาศใช้กฎหมายหมวกกันน็อคประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน มีใจความสำคัญ คือ กำหนดให้ประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัย หากไม่ปฏิบัติตามถือว่ามีความผิด ต้องปรับเป็นเงินไม่เกิน 500 บาท
ตั้งแต่มีกฎหมาย ความร้าวฉานระหว่างผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยมา
ในมุมมองส่วนตัวแล้ว คิดว่าการบังคับใช้กฎหมายข้อนี้ก้าวล้ำเส้นสิทธิเสรีภาพในร่างกาย เนื่องจากการที่คนหนึ่งคนไม่ต้องการที่จะสวมหมวกนิรภัยนั้น เขาอาจมีเหตุผลหรือข้อกังวลใจส่วนตัว อาจเพราะระยะทางไกล้ กลัวผมทรงผมเสีย เร่งรีบ หรือไม่มีที่เก็บหมวกกันน็อคหลังไปถึงที่หมาย กลัวหมวกกันน็อคหาย หรืออะไรก็แล้วแต่
เพียงเหตุผลที่ว่าต้องการลดการการเสียชีวิตในระดับบุคคลหรือประหยัดงบประมาณในการรักษาพยาบาล ไม่พอฟังที่จะให้อำนาจรัฐในการตรากฎหมายเพื่อบังคับได้ เพราะพฤติกรรมดังกล่าวมิได้ผิดศีลธรรมอันดีของประชาชนและไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่น รัฐควรใช้วิธีรณรงค์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน หรือวิธีอื่นใดก็แล้วแต่ที่มิได้มีสภาพบังคับดังเช่นที่ปฏิบัติกันในปัจจุบัน เพราะรัฐในฐานะผู้กุมอำนาจปกครอง มีทั้งงบประมาณ บุคลากร และเทคโนโลยี หากทำไม่ได้ก็ถือเป็นความล้มเหลว ไม่ควรใช้วิธีการบังคับประชาชนในเรื่องที่กระทบกับความประพฤติส่วนตัว เพื่อประโยชน์ในทางส่วนตัวของคนคนนั้นเอง ไม่ใช่ประโยชน์สาธารณะ
ในปัจจุบันรัฐกำลังมองว่าการบังคับใช้กฎหมายเท่านั้นที่สามารถลดปัญหาได้ ในเมื่อรัฐบังคับให้ประชาชนสวมหมวกเพื่อลดอุบัติเหตุได้ในวันนี้ ในอนาคตอันไกล้ เราอาจเห็นกฎหมาย ห้ามกินน้ำตาล เพราะเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน ห้ามกินไก่เพราะเป็นสาเหตุของโรคเก๊า ฯลฯ ที่จะตามมาอีกก็ได้
ในเมื่อรัฐสามารถบังคับให้คนสวมหมวกกันน็อคเพื่อลดอันตรายจากอบุติเหตุ แล้วทำไมรัฐไม่ออกกฎหมายห้ามคนดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เพราะสาเหตุการเสียชีวิตคนส่วนใหญ่ในประเทศไทยมากจากโรคมะเร็ง และเหล้า กับบุหรี่ ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง จำนวนคนเสียชีวิตจากเหล้าและบุหรี่มากกว่าจำนวนคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางมอเตอร์ไซค์เสียอีก
[*หมายเหตุ* มีผู้อ่านส่งความเห็นและข้อเสนอมาทางหลังไมค์ ไอลอว์ขออนุญาตนำมาโพสเพื่อให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนด้วยกันต่อในประเด็นนี้]