For English please scroll down 
ผู้ต้องหา:อภิชาติ
ภูมิหลังผู้ต้องหา: อภิชาติ ปัจจุบันเป็นนักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นเจ้าหน้าที่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย อดีตที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการด้านเด็กและเยาวชน วุฒิสภา และประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ได้เริ่มศึกษากฎหมายอย่างจริงจังตั้งแต่สมัยเรียนในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และ เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองทั้งการชุมนุมทางการเมือง และ การเสวนาทางการเมือง อีกทั้งยังมีบทบาทโดดเด่นในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม ในนามสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย นับว่ามีบทบาทสำคัญในการผลักดันร่างข้อบังคับสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย รวมถึงได้ทำหน้าที่เป็นกรรมการในการแก้ไขกฎหมายหลายฉบับในเวลาต่อมา ในปี2556 เขาได้จัดตั้งสถาบันยุวชนสยาม โดยมี เนติวิทย์ โชติภัทรไพศาล เป็นรองประธานสถาบันฯ และมี สุลักษณ์ ศิวรักษ์ เป็นประธานที่ปรึกษา บทบาทที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือการเขียนบทความสนับสนุนประชาธิปไตย และ สังคมนิยม รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ให้เกิดการปรับตัว โปร่งใส่ และ ตรวจสอบได้
การกระทำที่ถูกกล่าวหา:เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 นาย อภิชาติ ได้ไปร่วมทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในการต่อต้านรัฐประหาร โดยการชูป้ายที่มีข้อความต่อต้านการรัฐประหาร ที่บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ สี่แยกปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยในวันนั้นผู้ร่วมชุมนุมได้ร่วมกันแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านต่างๆ เช่น การใช้เทปสีดำปิดปาก, การถือป้ายที่มีข้อความต่อต้านการรัฐประหาร, จุดเทียน, นั่งล้อมวงเป็นสัญลักษณ์เสรีภาพ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เนื่องจากอภิชาตได้โพสข้อความใน facebook ที่มีเนื้อหามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
พฤติการณ์การจับกุม:อภิชาติถูกจับกุมเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 ภายหลังร่วมกิจกรรมต่อต้านการรัฐประหาร โดยมีทหารคุมตัวอภิชาตขึ้นรถทหารไป
ข้อหา:เป็นแกนนำก่อความวุ่นวาย ม.215, ม.216, ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112,
พ.ร.บ.คอมฯ 14(3) และฝ่าฝืนประกาศ คสช. 7/2557 ห้ามชุมนุมทางการเมือง
ความเคลื่อนไหว :
30 พฤษภาคม 2557 พนักงานสอบสวนกองปราบปรามคุมตัวมายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกต่อศาล เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม - 10 มิถุนายน เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานอีก 10 ปาก รวมทั้งรอผลตรวจการพิมพ์ลายนิ้วมือ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม จ.ส.อ.อภิชาติ พงษ์สวัสดิ์ ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวโดยอ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการยื่นขอประกันตัว แต่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้พิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแล้ว พิเคราะห์พฤติการณ์ ประกอบหลักทรัพย์แล้ว เห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับผู้ต้องหาใช้ตำแหน่งราชการ ซึ่งไม่มีความเกี่ยวพันเป็นญาติ หรือเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีความใกล้ชิดเป็นหลักทรัพย์ ขณะที่พนักงานสอบสวนก็ได้คัดค้านการปล่อยชั่วคราวด้วย จึงเกรงว่าหากปล่อยตัวผู้ต้องหาแล้ว อาจจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว มีคำสั่งยกคำร้อง
ทั้งนี้ ภายหลังที่ศาลยกคำร้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัว นาย อภิชาติ ผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป
24 มิถุนายน 2557
ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดพิจารณาการไต่สวนคำร้องขอฝากขัง ครั้งที่ 3
พนักงานสอบสวนจากกองบังคับการปราบปรามยื่นขออำนาจศาลฝากขังครั้งที่ 3 เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังทำสำนวนไม่เสร็จ ยังต้องสอบพยานอีก 4 ปาก ซึ่งเป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยที่กำลังประสานงานติดต่อมาเพื่อขอความเห็นว่าข้อความที่อภิชาติโพสมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่
ทนายความของผู้ต้องหา ซักถามพนักงานสอบสวนถึงความจำเป็นที่จะขอฝากขัง ว่าการสอบสวนในขั้นตอนนี้ เป็นการขอความเห็นจากนักวิชาการ และรอเอกสารยืนยันทางเทคนิคว่าผู้โพสต์คือผู้ต้องหาจริงจากปอท. ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้ต้องหา แม้ว่าจะปล่อยตัวผู้ต้องหาไป ก็ไม่มีผลกับการสอบสวนในขั้นตอนนี้
นายอภิชาติ ผู้ต้องหาในคดี เบิกความต่อศาลว่า ตนกำลังอยู่ในระหว่างการทำสารนิพนธ์เพื่อส่งให้ทันกำหนดภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถสำเร็จการศึกษาได้ และอภิชาติยังต้องไปลงะเบียนเรียนในระดับปริญญาโท ที่สาขาชนบทศึกษาและการพัฒนา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยตนเอง ไม่อย่างนั้นจะถูกตัดสิทธิในการศึกษา นอกจากนี้อภิชาติยังต้องดูแลทำงานเพื่อเลี้ยงดูมารดาของตน เนื่องจากมารดาป่วยเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง
โดยถ้าหากอภิชาติไม่ได้รับการประกันตัว คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายที่อภิชาติทำงานเป็นผู้ช่วยนักวิชาการปฏิรูปกฎหมาย อาจจะให้อภิชาติออกจากงาน หรืออาจมีผลต่อการประเมินเงินเดือน เนื่องจากอยู่ในช่วงทดลองงาน
ส่งผลให้เขาไม่มีรายได้ไปดูแลมารดา และไม่ได้เรียนต่อปริญญาโทตามที่ตั้งใจไว้
รองศาสตราจารย์ ดร. นภาพร อติวานิชยพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักบัณฑิตอาสาสมัคร พยานฝ่ายผู้ต้องหา เบิกความว่า รู้จักอภิชาติในฐานะลูกศิษย์มาประมาณ 1 ปี อภิชาติเป็นผู้มีความประพฤติดี นอกจากนี้ในขณะไปปฏิบัติงานที่ จ.อุบลราชธานี ก็ได้ทำงานช่วยเหลือผู้ไร้สัญชาติ และสิทธิต่างๆ โดยพยานรับรองได้ว่าผู้ต้องหาจะไม่หลบหนีถ้าได้รับการประกันตัว
เวลา 15.00 น. ศาลมีคำสั่งยกคำร้องการขอฝากขังครั้งที่ 3 และถูกปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เวลา 19.20 น.
ผลกระทบอื่นๆ : -
Accused: Apichart Pongsawat
Background of accused :
Apichart is currently an officer of Law Reform Commission and pursuing Master’s Degree at Thammasat University. He is a former consultant of the Senate’s Sub-Committee on Children and Youth and served as a Chairman of the Children and Youth Council of Thailand. He has delved into the field of Laws since high school and participated in various political activities including political gatherings and political seminars.
On behalf of the Children and Youth Council of Thailand, Apichart has contributed to a number of public service. He also played an important role in pushing forward the draft of regulations of the Children and Youth Council of Thailand as well as in amending many laws once he served as a committee. In 2013, he founded Siam Youth Institute, in which Netiwit Chotiphatphaisal serves as a Deputy of Chairman and Sulak Sivarak as Chairman of consultants. He additionally regularly composes articles related to pro-democracy, socialism, and criticizing the monarchy with the aim that the institution will be more transparent and verifiable. For further information please visit: http://weeview0611.blogspot.com/2013/07/blog-post.html
Alleged offence : On May 23, 2014, in front of the Bangkok Art and Cultural Center, Apichart peacefully protested by raising a sign written remarks against the coup d’état. On that day, many dissidents gathered and expressed their defiance against the junta by holding signs, crossing black tape across their mouths, as well as lightening candles and sit in the shape of peace symbol.
Circumstance of arrest : Apichart was arrested by military officials after participating in political activity against the coup d’état. He was the first person who was arrested because expressing his political opinion in public since the coup.
Charge filed : Article 215 and Article 216 of the Criminal Code as being a leader provoking turbulence, Article 112 of the Criminal Code, the Computer-related Crime Act Article 14(3) and Violating NCPO's order No.7/2557, concerning the prohibition of political demonstration
Progress of the case :
On May 30, 2014, The investigatory officials took Apichart to Bangkok South Criminal Coort to filed a detention request for additional 12 days, from 30 May until 10 June. They claimed that their investigation had not been yet completed and they needed to question an additional 10 persons as well as waited for the results of the fingerprint examination.
Apichart submitted a request for bail with Parinya Thewanaruemitkun, a Law lecturer from Thammasat University, using his position as guaranty. The investigatory officials opposed bail, and argued that Apichart faced a severe sentence so that he might flee if granted release. The Court sees that the relationship between Apichart and the guarantor was not a relatives or close commander. The bailed was denied.
After that, Apichart was detained at Bangkok Remand Prison.
On June 24 2014
Bangkok South Criminal Court set an appointment to consider the third detention request.
The investigatory officer filed the third detention request because their investigation had not been completed. They need to question 4 more witnesses which are professors from universities for asking the opinions about the posted messages of Apichart if they are an offense under Article 112 of the Criminal Code or not.
The lawyer of accused questioned the investigatory officer about the necessity of detention request that this step is the way to get opinions from academics and waiting for the confirmed technical document showing Apichart is a real accused from Technology Crime Suppression, so this step does not link to an accused. Although an accused was released, it has no an effect with the investigation process.
Apichart, an accused of this case, testified to the Court that he was during to do his dissertation for sending it by 15 July 2014, or else, he cannot complete his education. Moreover, he himself has to enroll in master’s degree in faculty of liberal art at Thammasat university; otherwise, he maybe was deprived of his education. In addition, Apichart has to take care of his mother because of her diabetes and her high blood pressure.
By the way, Apichart maybe is rejected by the Law Reoform Committee and affect if he cannot get bailed because he was during probationary employee, so he could not pursue his master’s degree according to his intention and having money for take care of his mother.
Dr. Naphaporn Atiwanichayapong, a witness of the accused , testified that she knew Apichat as her student about a year. He has a good behavior. In addition, during his work in Ubonratchathanee, he worked for helping nationality-less persons to access their several rights. She confirmed that her student will not flee if he was bailed out.
At 15.00 p.m.,the third detention request was dismissed and Apichart was released from Bangkok Remand Prison at 19.20 p.m..
