2 มิถุนายน 2557 นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า พศ.ได้เสนอแผนขับเคลื่อนงานด้านพระพุทธศาสนาต่อ (คสช.) โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมการศึกษาคณะสงฆ์ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา รวมถึงการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาบาลี เพราะการเรียนบาลีถือเป็นหัวใจหลักในการศึกษาพระไตรปิฎก ที่จะทำให้พระสงฆ์ได้นำความรู้ไปเผยแพร่ได้อย่างถูกต้อง ในขณะเดียวกันจะต้องมีการสร้างคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กว่า 400 แห่ง จะต้องผ่านเกณฑ์การประเมินของ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)
นายนพรัตน์ กล่าวต่อไปว่า พศ.จะส่งเสริมพัฒนาให้พระสงฆ์ สามเณร ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มาสร้างความสมานฉันท์ให้แก่ประชาชนในชาติ รวมทั้งส่งเสริมให้พระสงฆ์ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาเป็นเครื่องมือในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มด้วย
16 มิถุนายน 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคสช. สั่งการให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยาเร่งเดินหน้าแก้ไขเหตุที่ทำให้สังคมไทยอ่อนแอ เช่น เรื่องพระภิกษุที่ประพฤติไม่เหมาะสม เน้นย้ำให้กรมการศาสนา และสำนักพระพุทธศาสนาตั้งคณะกรรมการติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อทำให้ศาสนาบริสุทธิ์
หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการดังกล่าว มีความเคลื่อนไหวของผู้ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
17 มิถุนายน 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ อดีตแกนนำ กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าเห็นป้ายโฆษณาของธรรมกายร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและคณะสงฆ์ จัดบวชพระภิกษุแสนรูปแล้วทำให้นึกขึ้นได้ค.ส.ช.ช่วยส่งคนที่ไว้ใจได้ ไปตรวจสอบเงินงบประมาณแผ่นดิน ที่วัดธรรมกายได้รับจากรัฐบาลคุณปูโดยผ่านสำนักนายกบ้าง ผ่านกระทรวงวัฒนธรรมและความมั่นคงของมนุษย์ผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติบ้าง รวมทั้งเหตุการเงินของกลุ่มสหกรณ์ยูเนี่ยนสูญหายไปเป็นหมื่นๆล้าน ซึ่งประธานกลุ่มยูเนี่ยนได้เป็นศิษย์ใกล้ชิด เป็นกรรมการบริหารของวัดนี้ด้วย หากไม่มีสิ่งผิดปกติจักได้แก้ข้อสงสัยทำให้พระศาสนาและวัดผุดผ่องด้วย
และในวันเดียวกัน มีการแถลงผลการประชุมคสช.ครั้งที่2/2557 สืบเนื่องจากภัยพิบัติที่จังหวัดเชียงรายว่า คสช.อนุมัติงบกลางฯให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จำนวน127ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือวัด ศูนย์ปฏิบัติธรรมที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งดูแลพระสงฆ์และสามเณรด้วย
เตรียมตั้งศูนย์ Hot Line แจ้งภัยพระพุทธศาสนา
และนอกจากนั้นในวันที่ 17 มิถุนายน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ตามที่ (คสช.) มอบหมายให้ พศ.แก้ไขปัญหาสังคมที่อ่อนแอ โดยเฉพาะเรื่องพระภิกษุที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม รวมทั้งให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง พศ. จะดำเนินการเปิดศูนย์ฮอตไลน์แจ้งภัยทางพระพุทธศาสนาหมายเลข 0-2441-6400 กด 2 เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม และให้สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ พศ.และจะเชื่อมโยงข้อมูลไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทั่วประเทศ นอกจากนี้ได้สั่งการให้รวบรวมข้อมูลเรื่องร้องเรียนเป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้ พศ.รับทราบปัญหาและส่งเรื่องไปให้เจ้าคณะปกครองในพื้นที่รับผิดชอบให้เร่ง แก้ปัญหาและลงโทษหากพบว่าทำผิดจริง ที่สำคัญหากเจ้าคณะปกครองพื้นที่ใดละเลยไม่แก้ไขปัญหา ก็จะสามารถตรวจสอบได้
อีกทั้งได้เสนอต่อที่ประชุม คสช.เร่งผลักดันพ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เนื่องจาก พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวล่าช้ามานานและยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับบทลงโทษพระภิกษุที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามที่ประชุม คสช.ก็ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของ พศ. ดังนั้นในเร็วๆ นี้ทาง พศ.จะจัดทำรายละเอียดพ.ร.บ. ดังกล่าว เสนอให้ คสช.พิจารณา ผ่านพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช. ในฐานะเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ
เตรียมงบโครงการศาสนา 35 ล้านบาท
18 มิถุนายน 2557 พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะ หัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา ได้พบผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ขอให้ปรับแผนเน้นกิจกรรมด้านสังคม ที่สอดแทรกเนื้อหาการปรองดอง เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคม หลังจากนี้ก็จะมีการพิจารณากิจกรรมให้หลากหลายขึ้นโดยทุกกิจกรรมจะส่งเสริมให้ประชาชนได้มีความรู้สึกรักใคร่ปรองดองเกิดความสามัคคีในชาติ เพื่อกระจายความสุขให้เข้าถึงคนทั่วประเทศ
ปรีชา กันธิยะ ปลัด วธ. กล่าวว่า โรดแม็พงานวัฒนธรรมที่สร้าง “บรรยากาศ” สมานฉันท์ โดยเตรียมเสนอ คสช. พิจารณาโครงการ กิจกรรมต่างๆ ถึง 7 โครงการ ใช้งบ 109 ล้านบาท อาทิ แผนงานสร้างความสุข 2 โครงการ วงเงิน 51 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการสร้างความสุข คืนรอยยิ้มสู่ประชาชน โครงการสร้างสรรค์และพัฒนางานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย แผนงานสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ 3 โครงการ 35 ล้านบาท ได้แก่ โครงการศาสนาสร้างสมานฉันท์ให้สันติ อาทิ กิจกรรมศาสนิกสัมพันธ์ การจัดงานรวมพลังทางศาสนาเพื่อสร้างความสมานฉันท์เฉลิมพระเกียรติฯ
สุดท้ายแผนงานสร้างภูมิคุ้มกันทางวัฒนธรรม 2 โครงการ ใช้งบ 22 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางวัฒนธรรมในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมในอาเซียน จากนี้ไปก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ คสช. และการทำงานของชาว วธ.ว่าจะผลักดันให้โครงการเหล่านี้เกิดเป็นรูปธรรมมากน้อยเพียงใด
ในส่วนของกรมการศาสนา (ศน.) - เนื่องจาก พล.ร.อ.ณรงค์ มีความสนใจโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เป็นอย่างมาก จะช่วยทำให้สังคมเกิดความสงบและมีสันติสุข เกิดความรักความสามัคคีร่วมกัน กฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) จึงจะประสาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ มาช่วยทำโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5