ผลงาน คสช. กับการจัดระเบียบรถตู้

นโยบายในการจัดระเบียบวินรถตู้ก็ถูกยกมาเป็นประเด็นด่วนในการเร่งจัดการด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ศูนย์กลางและเป็นจุดเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนสำคัญหลายชนิด ส่งผลให้การจราจรบริเวณโดยรอบติดขัดและเกิดความยุ่งยากในการจัดการ พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คสช. มีนโยบายว่าจะต้องไม่มีผู้อิทธิพลเก็บค่าหัวคิว ผู้ประกอบการหรือพนักงานขับรถตู้จะต้องไม่เรียกเก็บค่าโดยสารเพิ่มจากผู้โดยสาร นอกจากนั้นจะต้องแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในบริเวณนั้นด้วย 
 
ที่มาภาพ: sanook.com
 
17 มิถุนายน 2557 พ.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ร่วมกับ พ.ต.ท.จุมพล คณานุรักษ์ รองผู้กำกับฝ่ายจราจร สน.พญาไท และผู้แทนผู้ประกอบการกว่า 20 คน เข้าประชุมหารือกันที่ สน.พญาไท เพื่อหาแนวทางในการจัดระเบียบวินรถตู้ตามคำสั่งของ คสช. ได้ข้อสรุปว่าเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการที่พื้นที่บริเวณรอบวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นอันดับแรก และแบ่งการปฏิบัติการออกเป็น 3 ระยะ คือ 
 
1. จัดระเบียบที่จอดรถ จัดทำป้ายบอกราคา ปรับพฤติกรรมผู้ขับขี่ เช่น การแต่งกาย มารยาท บัตรแสดงตน ใบอนุญาตถูกต้อง สภาพรถ ต้องไม่มีการเรียกเก็บค่าโดยสารเพิ่ม นอกจากนั้นยังต้องรวบรวมรายชื่อผู้มีอิทธิพล จัดทำข้อมูลวิน โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 มิถุนายน
 
2. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดระเบียบให้มีการลงทะเบียนสอบประวัติ จัดให้มีมาตรฐานการบริการในลักษณะเป็นส่วนย่อยของ บขส. โดยต้องมีสถานที่ขายตั๋ว ที่พักผู้โดยสาร ห้องน้ำ ต้องไม่จอดรถกีดขวางการจราจร ปรับบริเวณพื้นที่จุดรับส่งให้เป็นระเบียบ ปรับเส้นทาง จดทะเบียนให้ถูกต้อง ปรับปรุงมาตรการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 
 
3. ขั้นตอนนี้จะเป็นการดำเนินการแก้ไขผลกระทบที่ยั่งยืน ได้แก่ การติดตามประเมินผลความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ แก้ไขข้อกำหนดและกฎหมาย และบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง 
 
 
ภายหลังที่เจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการอย่างเข้มงวด หากมองด้วยสายตาก็จะเห็นได้ชัดว่าบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิโล่งขึ้น ซอยแยกย่อยต่างๆ ที่เคยคลาคล่ำไปด้วยรถตู้มีพื้นที่ว่างให้ใช้สอยสัญจรมากขึ้น แต่การจราจรผ่านเส้นทางนี้ก็ยังเป็นเรื่องน่าเหนื่อยใจสำหรับผู้ขับขี่อยู่ดี 
 
 
ความเห็นจากนายท่ารถตู้สายหนึ่ง
“ตอนแรกเขาก็มาเชิญเราเข้าไปคุยในค่าย ให้มาคุยกันว่าจะจัดการปัญหาอย่างไรดี อย่างท่ารถตู้พวกพี่ใช้วิธีเช่าจากเจ้าของบ้าน ก็เลยได้ขายอยู่ตรงส่วนนี้ตามเดิม แต่พวกพี่ใช้พื้นที่ต้องเกาะถนน ที่ไม่ได้เช่าที่ แต่ไปตั้งจัดขายตั๋วในพื้นที่สาธารณะเอง เขาก็จะมาจัดที่ให้” แอน(นามสมมติ) นายท่ารถตู้สายหนึ่งที่เข้าร่วมหารือกับคณะดำเนินงานจัดระเบียบวินรถตู้กล่าว 
 
แอนยังเล่าเสริมอีกว่าแรกสุดที่ คสช. มีคำสั่งจัดระเบียบรถตู้ จะมีเจ้าหน้าที่มาเชิญนายท่ารถตู้ทุกท่ารถให้เข้าไปร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางร่วมกันในการจัดการ โดยการพูดคุยเป็นไปอย่างสงบ เป็นกันเอง ไม่มีการข่มขู่ หรือพูดจารุนแรงแต่อย่างใด
นโยบายดังกล่าวได้แก่การขอจัดระเบียบที่ตั้งท่ารถตู้ขายตั๋ว โดยจะจัดเป็นโต๊ะให้แต่ละท่าอย่างเป็นระเบียบ ขอให้ช่วยอบรมพนักงานขับรถให้แต่งตัวให้สุภาพ ขับรถอย่างมีวินัย และไม่รีดไถเงินเพิ่มเติมจากผู้โดยสาร และขอให้นำรถตู้ไปจอดที่สถานี Airport Link มักกะสัน เมื่อถึงคิวรับผู้โดยสารค่อยวนรถกลับมารับที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 
 
ความเห็นจากคนขับรถตู้สายหนึ่ง
พี่วุฒิ (นามสมมติ) พนักงานขับรถสายรถเดียวกับที่แอนเป็นนายท่าเล่าว่าการการต้องไปจอดรถที่มักกะสันทำให้เปลืองค่าแก๊สเชื้อเพลิงมากขึ้น และทำให้เวลาวิ่งรถส่งผู้โดยสารล่าช้ามากยิ่งขึ้น จากเดิมที่มีกำหนดต้องเดินทางไปถึงที่หมายภายในเวลา 2 ชั่วโมง ก็ต้องเสียเวลาวนรถมารับผู้โดยสารที่อนุสาวรีย์ชัย ซึ่งการวนรถจากมักกะสันมาที่นี่จะต้องเจอกับปัญหารถติดที่การจัดระเบียบรถตู้อย่างไรก็แก้ไม่หาย 
 
“ปัญหาส่วนหนึ่งอาจจะอยู่ที่พวกเราไปจอดรถกินพื้นที่ก็จริง แต่ก็เห็นกันอยู่ว่าอนุสาวรีย์ฯ เป็นทางผ่านไปอีกหลายเส้นทาง ทั้งต่อรถเมล์ รถตู้ รถไฟฟ้า ไหนจะรถแท็กซี่ที่จอดแช่รอผู้โดยสารอีก เอารถตู้ออกไปแล้ว พี่ก็ว่ารถยังติดอยู่ดี ยิ่งย้ายไปมักกะสัน กว่าจะขับออกจากตรงนั้นมารับผู้โดยสารที่อนุสาวรีย์ได้ก็กินเวลาไปอีกอย่างต่ำก็ครึ่งชั่วโมง”
 
“ตอนเรียกไปคุยในค่ายทหารนี่เขาเรียกไปแต่พวกนายท่านะ นายท่าเขาทำแค่เก็บเงิน จ่ายตั๋วให้ผู้โดยสาร เรานี่ขับรถทุกวัน ต้องถามเราสิ ปกติเราจะมีจัดคิวว่าใครวิ่งรถคิวไหน ต้องถึงที่ปลายทางกี่โมง อย่างของพี่วันนี้ตอนแรกนัดกลับไปกินข้าวกับแฟนตอนหกโมง นี่คงถึงปลายทางราวๆ ทุ่มครึ่ง ไม่ไหว กว่าจะวนรถจากมักกะสันออกมาอนุสาวรีย์ได้ก็กินไปเกือบชั่วโมงแล้ว คือแก้รถติดตรงนี้ก็ไม่รู้แก้ได้หรือเปล่า แต่รถติดมันแก้ทีเดียวไม่ได้ไง แก้ตรงนี้ แต่ตรงนู้นมันติด ใช่ว่าแก้สายเดียวแล้วรถมันจะไม่ติดไปตลอดเส้นทางเมื่อไหร่ล่ะ” 
 
ถึงจะมีผลกระทบส่วนตัวบ้าง วุฒิก็ยอมรับว่าแม้การจัดระเบียบรถตู้ครั้งนี้จะไม่ช่วยเรื่องความติดขัดของสภาพจราจรมาก แต่ก็เห็นได้ว่ารถติดน้อยลง การสัญจรคล่องตัวขึ้น และเมื่อเป็นนโยบายที่มีผลให้พนักงานขับรถต้องปฏิบัติตาม หนทางเดียวก็คือปฏิบัติตาม 
 
ความเห็นจากผู้โดยสารตู้สายหนึ่ง
“รู้สึกว่ารถติดน้อยลง ปกติจะใช้บริการท่ารถตู้แถวภัตตาคารพงษ์หลี ซอยนั้นจะมีรถจอดเยอะมาก รถวิ่งวนรับผู้โดยสารตลอดเวลา ถ้าเราไม่ระวังบางครั้งก็เกือบถูกรถชน เพราะรถวิ่งมาตลอดเลย ไม่เหลือที่ว่างให้เราเดิน พอเขาทำนโยบายนี้มาก็รู้สึกว่าดีขึ้นนะ ซอยนี้ดูโล่งไปเลย”
 
พลอย(นามสมมติ) ผู้โดยสารที่ต้องใช้บริการรถตู้เป็นประจำเล่าให้ฟังถึงความเปลี่ยนแปลงภายหลังมีนโยบายจัดระเบียบรถตู้ หญิงสาวเสริมว่าพอใจกับนโยบายนี้ เพราะไม่ต้องเสี่ยงกับอันตรายจากรถตู้ที่ขับวนและจอดไม่เป็นระเบียบภายในซอย แม้จะต้องทนร้อนนิดหน่อยเนื่องจากไม่มีรถตู้เปิดแอร์แช่ให้รอก่อนรถออกเช่นเคย