สมบัติ บุญงามอนงค์: ฝ่าฝืนประกาศ คสช 41/2557, ป.อาญา ม.116,ม.112, และ พ.ร.บ.คอมฯ (Sombat)

ผู้ต้องหา : สมบัติ บุญงามอนงค์ ชื่อเล่นว่า "หนูหริ่ง" รู้จักเขาดีในชื่อ "บก.ลายจุด" ซึ่งเป็นนามแฝงที่ใช้ในอินเทอร์เน็ต
 
 
ภูมิหลังผู้ต้องหา :  สมบัติ บุญงามอนงค์ ชื่อเล่นว่า "หนูหริ่ง" และมีนามแฝงที่ใช้ในอินเทอร์เน็ตว่า "บ.ก.ลายจุด" เป็นอดีตประธานกรรมการมูลนิธิกระจกเงา เป็นเว็บมาสเตอร์ของเว็บไซต์เพื่อสังคมหลายแห่ง นอกจากนี้ยังเป็นแกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง 
 
สมบัติทำงานด้านสังคมมาตลอด กระทั่งเกิดเหตุการณ์รัฐประหารในปี 2549 เขาแสดงจุดยืนคัดค้านการรัฐประหารอย่างชัดเจน พร้อมเป็นแกนนำ "กลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ต่อต้านรัฐประหาร"  เป็นแกนนำ "เครือข่าย 19 กันยายน ต้านรัฐประหาร" และยังได้รวมตัวกับเพื่อนก่อตั้ง "กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.)" เพื่อต่อต้านการรับประหารและเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง 
 
ในปี 2553 กลุ่ม นปก. ซึ่งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)" เพื่อจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การนำผ้าสีแดงไปผูกไว้ที่ป้ายแยกราชประสงค์เพื่อเรียกร้องให้มีการรับผิดชอบต่อการกระชับพื้นที่จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรม "ที่นี่มีคนตาย" ทุกวันอาทิตย์ที่ราชประสงค์ ในนามกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง 
 
ในปี 2556 รับบาลพรรคเพื่อไทยเร่งผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่งจนเกิดกระแสคัดค้านในสังคม สมบัติก็เป็นอีกหนึ่งคนที่รวบรวมมวลชนผ่านสื่อออนไลน์เพื่อแสดงพลังคัดค้านที่แยกราชประสงค์ด้วย
 
การกระทำที่ถูกกล่าวหา : สมบัติมีชื่ออยู่ในคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2557 ให้บุคคลมารายงานตัว ณ หอประชุมกองทัพบพ เทเวศน์ ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 แต่เขาไม่ได้เข้ารายงานตัว ต่อมาวันที่ 11 มิถุนายน 2557 ศาลทหารอนุมัติหมายจับสมบัติ ใน 2 ข้อหา คือ ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
 
พฤติการณ์การจับกุม : ช่วงกลางคืนของวันที่ 5 มิถุนายน 2557 สมบัติถูก ผบก.ปอท. ร่วมกับ ร.21 เข้าจับกุมตัวที่บ้านพักที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี หลังจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติตรวจสอบหมายเลขไอพีที่ใช้โพสต์ข้อความผ่านอินเทอร์เน็ต จากนั้นจึงนำตัวไปสอบสวนที่ค่ายกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ จ.ชลบุรี (ร.21 รอ.) ก่อนนำตัวขึ้นศาลทหารเพื่อดำเนินคดีต่อไป ภายหลังถูกจับกุมตัวสมบัติได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "ผมโดนจับแล้ว" จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวสมบัติไปสอบสวนต่อที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง
 
 
ข้อหา :   ป.อาญา ม.116, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (3), ม.112  
 
 
ความเคลื่อนไหว : 10 มิ.ย.2557 เกศสุดา บุญงามอนงค์ ภรรยาสมบัติ ประสานงานกับ คสช. ขอเข้าเยี่ยมสามี โดยได้รับแจ้งว่าอยู่ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ เมื่อไปถึงกลับได้รับคำตอบว่านายสมบัติไม่เคยมาที่นี่ เกศสุดากล่าวว่ามีข่าวจากสื่อต่างๆ ว่ามีการนำตัวสมบัติไปที่ ค่ายทหาร ร.21 รอ. ชลบุรี จึงเดินทางไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่ทหารผู้ดูแลแจ้งว่าสมบัติไม่เคยอยู่ที่นี่ ทำให้ไม่ได้พบกับสามี จึงเรียกร้องถึง คสช. ให้คำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของสามี โดยควรแจ้งให้ญาติได้รู้ว่าอยู่ที่ไหนอย่างไร
 
11 มิถุนายน 2557 พลตำรวจตรีพิสิษฐ์ เปาอินทร์ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี หลังจากสมบัติถูกควบคุมวันครบกำหนด 7 วัน ว่า ศาลทหารอนุมัติหมายจับสมบัติแล้วใน 2 ข้อหา คือ ยุยงปลุกปั่น ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยได้รับการประสานจากทหารว่าจะคุมตัวสมบัติให้ ปอท. ในช่วงบ่ายวันนี้เพื่อให้ดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 
 
12 มิถุนายน 2557 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารนำตัวสมบัติมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวนที่กองปราบเพื่อสอบสวนและแจ้งข้อหา หากยังมีพยานที่พนักงานสอบสวนยังดำเนินการไม่เสร็จ ก็จะนำตัวสมบัติไปขออำนาจศาลทหารกรุงเทพ เพื่อฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ซึ่งระหว่างนี้ผู้ต้องหาสามารถให้ทนายยื่นประกันตัวได้
 
เวลาประมาณ 12.10 น. สมบัติเดินทางมายังศาลทหาร ซึ่งถูกตั้งข้อหา 3 ข้อหา โดยถูกแจ้งข้อหาแรก 2 กรรม คือ ขัดคำสั่ง คสช. ที่ประกาศเรียก 2 ครั้งแล้วไม่รายงานตัว, ข้อหาที่สองคือ มาตรา 116 ของประมวลกฎหมายอาญา, ข้อหาที่สามคือ มาตรา 14(3) ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ว่าด้วยการนำเข้าข้อมูลความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง โดยมีทนายมาขอทำเรื่องประกันตัวแต่พนักงานสอบสวนคัดค้าน สมบัติจึงถูกควบคุมตัวไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
 
23 มิถุนายน 2557 เวลา 10.45 น. ที่ศาลทหาร มีการพิจารณาคำร้องขอฝากขังสมบัติ ผลัดสอง 12 วัน ระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน - 5 กรกฎาคม โดยพนักงานสอบสวนยืนยันต่อศาลว่ามีความจำเป็นต้องขอควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจากลายนิ้วมือและหาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมตามฐานความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สมบัติได้ลุกขึ้นคัดค้านคำขอฝากขังว่ากระบวนการต่างๆ ของพนักงานสอบสวนดำเนินการได้โดยไม่จำเป็นต้องสอบสวนตนแล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องขอฝากขังตนในผลัดที่สองอีก แต่ปรากฏว่าศาลทหารอนุญาตให้ฝากขังนายสมบัติผลัดสอง อานนท์ นำภา ทนายของสมบัติจึงดำเนินเรื่องขอปล่อยตัวชั่วคราวทันที 
 
เวลา 14.20 น. อานนท์ นำ เปิดเผยว่า ศาลไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวสมบัติ เนื่องจากถูกจับกุมตัวตามหมายจับ จึงเกรงว่าจะหลบหนี ซึ่งทีมทนายจะหารือแนวทางขอประกันตัวต่อไปว่าจะเพิ่มหลักทรัพย์และหาพยานบุคคลมายืนยันว่าจะไม่หลบหนีหรือไม่ ในการขออนุญาตฝากขังของพนักงานสอบสวนในวันที่ 4 ก.ค.
 
หลังจากที่ทนายอานนท์ ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 4 แสนบาท พร้อมคำร้องประกอบว่าสมบัติพร้อมยุติบทบาท ไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ หากได้ประกันก็จะกลับมาทำงานเพื่อสังคมและอยู่ดูแลลูกสาวกับครอบครัว และหากศาลออกเงื่อนไข ผู้ต้องหาก็พร้อมจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
 
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปแจ้งความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ จ.ร้อยเอ็ด เป็นคนละกรณีกัน ต้องไปขึ้นศาลยุติธรรม ซึ่งสมบัติได้ถูกตั้งข้อหาแล้ว แต่ยืนยันจะปฏิเสธข้อหาทั้งหมด
 
4 กรกฎาคม 2557 ศาลทหารกรุงเทพฯ อนุญาตฝากขัง สมบัติ ในผลัดที่ 3 เนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องสอบพยานเพิ่มเติม 1 ปาก เพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรและสรุปสำนวนส่งผู้บังคับบัญชา จึงอนุญาตให้ฝากขังผลัดที่ 3 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งวันที่ 7 ก.ค. – 16 ก.ค.
 
อย่างไรก็ตาม ศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากสัญญาประกันตัวยังคงมีผลอยู่ตามเงื่อนไขเดิม คือ ห้ามยุ่งเกี่ยวทางการเมือง และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ สมบัติ ยืนยันว่าหลังจากได้รับการประกันตัวจะกลับไปทำงานที่มูลนิธิกระจกเงา ส่วนการทำกิจกรมเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือการต่อต้านรัฐประหารคงต้องหยุดไว้ก่อน ส่วนที่ตนเองได้มีโอกาสพูดคุยกับบุคคลที่มีมุมมองทางการเมืองที่แตกต่างกัน ซึ่งถูกจองจำอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครนั้น ก็เป็นโอกาสที่ได้เรียนรู้ทำความเข้าใจซึ่งกันและกันในมิติที่กว้างขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนทัศนคติความเชื่อเดิมแต่อย่างใด
 
ในประเด็นการเมือง สมบัติเห็นว่า การยึดอำนาจได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว สังคมควรมองไปข้างหน้า หาทางออกร่วมกัน จึงขอยุติบทบาทตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ส่วนคดีความก็จะขอประกันตัวออกมาใช้ชีวิตกับลูกสาว และให้ความร่วมมือกับภาครัฐต่อไป อย่างไรก็ตาม นายสมบัติกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาอยากให้ประชาชนหยุดออกไปเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหาร เพราะที่ผ่านมา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้แล้วว่ามีคนต่อต้านรัฐประหารเป็นจำนวนมาก ต่อจากนี้ไปอยากให้เปลี่ยนมาเป็นการใส่เสื้อแดงทุกวันอาทิตย์แทน และโฟกัสที่การตรวจสอบกระบวนการต่อจากนี้ เช่น กระบวนการปรองดองและกระบวนการปฏิรูป นอกจากนี้และสมบัติยังกล่าวว่า เขาพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการปรองดอง เพราะตนมีแนวทางการเคลื่อนไหวอย่างสันติ การปรองดองของคนในชาติควรให้โอกาสผู้ที่เคลื่อนไหวอย่างสันติร่วมด้วย
แหล่งอ้างอิง: ประชาไท
 
วันที่ 17 ก.ค. 2557 พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องฝากขังในผลัดที่สี่ โดยมีกำหนดตั้งแต่วันที่ 18- 29 ก.ค. หลังจากครบกำหนดฝากขังในผลัดที่สามในวันนี้เนื่องจากการสอบสวนพยานและรวบรวมหลักฐานยังไม่เสร็จทั้งนี้ศาลให้ประกันตีราคาประกัน 600,000 บาทพร้อมกำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวด้วยว่าห้ามไปยุ่งเกี่ยวทางการเมือง และห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่ได้รับอนุญาต 
 
นอกจากนี้ สมบัติ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีม.112 ของตนว่าในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ต้องเดินทางไป สภ.ร้อยเอ็ด ในการต่อสู้คดีที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย ซึ่งคดีดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมปกติของศาลยุติธรรม
 
แหล่งอ้างอิง : ประชาไท
 
 
ข้อหา :   ฝ่าฝืนประกาศ คสช. ฉบับที่ 41/2557 ไม่มารายงานตัวตามกำหนด ตามคำสั่งฉบับที่ 3/2557 
ขึ้นศาลแขวงดุสิต 
 
ความเคลื่อนไหว : 10 กรกฎาคม 2557 เวลาประมาณ 11.00น. สมบัติและภรรยาเดินทางมาที่ศาลแขวงดุสิตเพื่อรอฟังคำสั่งศาล ศาลมีคำสั่งให้ออกหมายขังแต่สมบัติคัดค้าน ทนายจึงขอประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 300,000 บาท ศาลอนุญาตให้ประกันตัวได้แต่มีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศและห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง 
 
ศาลนัดพร้อม วันที่ 19 สิงหาคม 2557 เวลา 9.00 น.
 
 
ข้อหา :   คดี ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ขึ้นศาลจังหวัดร้อยเอ็ด 
การกระทำที่ถูกกล่าวหา : วันที่ 5 ม.ค.57 นายวิพุธ สุขประเสริฐ หรือผู้ใช้นามแฝงว่า I Pad ซึ่งเคยร้องทุกข์กล่าวโทษในคดี 112 ไว้หลายครั้ง ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษสมบัติ โดยกล่าวอ้างถึงการแชร์ภาพล้อเลียนในเฟซบุ๊ก และศาลได้อนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นสมบัติให้การปฏิเสธ
 
พฤติการณ์การจับกุม : วันที่ 1 ก.ค.57  พ.ต.ท.สุริยา แสงอ่อนตา พงส.ผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้ดำเนินการอายัดและรับเอาตัว สมบัติ ที่ได้รับการประกันตัวจากเรือจำพิเศษกรุงเทพ เมื่อตอนเย็นวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา 
 
ความเคลื่อนไหว :วันที่ 1 ก.ค. สมบัติ เดินทางถึง สภ.เมืองร้อยเอ็ด เวลา 05.00 น. ได้ถูกนำตัวเข้าสอบปากคำ และได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และระหว่างการสอบสวน ตั้งแต่เช้าถึง เวลา 11.00 น. มีชาวบ้าน ครู จำนวนมาก ที่มาจาก จ.ร้อยเอ็ด เข้าเยี่ยมและนำข้าวปลาอาหาร เครื่องดื่ม ไปมอบให้นายสมบัติ
 
หลังจากสอบปากคำเสร็จแล้ว น.ส.ดวงฤดี อมรวิพุธพณิชย์ อายุ 43 ปี ภรรยา ใช้เงินสดจำนวน 3 แสนบาท ประกันตัวต่อศาล จ.ร้อยเอ็ด โดยนายสมบัติได้รับอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราวระหว่างการดำเนินคดี แต่มีเงื่อนไข ห้ามยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ห้ามยุยงปลุกปั่นประชาชนให้ละเมิดต่อกฎหมาย และห้ามออกนอกประเทศ
 
1 ก.ค. พ.ต.ท.สุริยา แสงอ่อนตา พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้ดำเนินการอายัดและรับเอาตัวสมบัติ ที่ได้รับการประกันตัวจากเรือจำพิเศษกรุงเทพ
 
ผลกระทบอื่นๆ : นายสมบัติได้เขียน หรือโพสข้อความว่าครอบครัวมีความเดือดร้อนโดยเฉพาะทุนการศึกษาของบุตรสาว ปฏิเสธทรับการช่วยเหลือแ ต่ก็ขอขอบคุณในน้ำใจไมตรีของหัวหน้าคสช.