ในรอบสัปดาห์นี้ ไฮไลท์ไปอยู่ที่การแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งหลายคนเป็นคนหน้าซ้ำที่รับตำแหน่งในรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น ครม. คณะกรรมการปฏิรูปฯ หรือบรรดาที่ปรึกษา ป.ย.ป. ด้าน สนช. ก็มีการพิจารณากฎหมายหลายฉบับ โดยกฎหมายที่ผ่านการเห็นชอบในวาระ 3 คือ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 ส่วน กรธ. ก็มีความคืบหน้าในกฎหมายลูกหลายฉบับ รวมทั้งต้องจับตา ปมเซ็ตซีโร่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวางบรรทัดฐานอย่างไร
29 สิงหาคม 2560
ประธาน กรธ. ระบุ กรณีคุณสมบัติผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้องรอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
มีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 36 คน ยื่นเรื่องแก้ไข ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. .... ที่ให้ดำรงตำแหน่งต่อจนครบวาระขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า ต้องรอคำชี้แจงและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเป็นเรื่องของกรรมาธิการของ สนช.ที่จะส่งเอกสารและส่งตัวแทนไปชี้แจง ทั้งนี้ตามร่างเดิม กรธ.ได้กำหนดให้ผู้ตรวจการแผ่นดินที่มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญใหม่ สามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้ เว้นแต่บุคคลที่ขาดคุณสมบัติจะให้พ้นวาระ ซึ่งก็เป็นไปตามหลักการ แต่สุดท้ายต้องขึ้นอยู่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ว่าอย่างไร หากยืนตามหลักการนี้ ก็จะใช้เป็นบรรทัดฐานในการยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอื่นด้วย แต่หากศาลชี้เป็นอย่างอื่น ก็ถือเป็นอีกทางเลือกทางหนึ่งซึ่งก็เป็นเรื่องของ กรธ.และ สนช.ที่จะเลือกพิจารณาตามความเหมาะสม
ประธาน กรธ.กล่าวยืนยันด้วยว่า การพิจารณาคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระจะยึดตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เว้นแต่กรณีพิเศษ เช่น กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่เสนอให้มีการสรรหาคณะกรรมการชุดใหม่ทั้งหมด
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศแต่งตั้ง คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 12 ด้าน
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2560 มีมติให้แต่งตั้ง รองประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ นอกเหนือจากกรรมการ โดยตําแหน่งที่มีอยู่แล้ว ดังนี้
1. ให้พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองประธานกรรมการ
2. ให้ผู้มีรายชื่อดังต่อไปนี้เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ
(1) นายกานต์ ตระกูลฮุน (2) นายชาติศิริ โสภณพนิช (3) นายเทียนฉาย กีระนันทน์ (4) นายบัณฑูร ล่ำซํา (5) พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง (6) นายพลเดช ปิ่นประทีป (7) นายวิษณุ เครืองาม (8) นายศุภชัย พานิชภักดิ์ (9) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (10) นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ (11) พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา (12) นายอุตตม สาวนายน
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีจะได้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มเติมต่อไป
วิษณุ เผยคณะกรรมการปฏิรูปประเทศถกวางกติกา พรุ่งนี้ คาด แผนปฏิรูปเสร็จ เม.ย.61
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุผลการแต่งตั้ง 5 รัฐมนตรี เข้ามาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติว่า ในระยะเร่ิมต้น หลายอย่างยังไม่เข้าที่เข้าทาง จึงให้ตั้งแบบนี้ไปก่อน เพราะแต่ละคนเป็นคนที่ทำยุทธศาสตร์ชาติ 6 ด้านมาก่อนเหมือนเป็นเจ้าของเรื่องอยู่ก่อนแล้ว ก็จะให้มาทำต่อช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เมื่อผ่านไปสักระยะการจะลาออก หรือปรับเปลี่ยนตัวบุคคลไม่ยากอะไร อย่างไรก็ตาม บุคคลอื่นที่มาจากภาคส่วนอื่นๆ เพื่อมาเสริมงานในด้านต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนอีก 5 ตำแหน่งที่เหลือที่ยังไม่มีการแต่งตั้ง จะได้พิจารณาบุคคลที่เหมาะสมต่อไปรวมถึงนักการเมือง และขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีพิจารณา
เมื่อถามว่า เมื่อมีรัฐบาลใหม่และปรับเปลี่ยนตัวบุคคล จะทำให้ยุทธศาสตร์ชาติสะดุด หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ไม่สะดุด เพราะไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล เพราะมันเป็นแผน เมื่อแผนเดินไปแล้วก็สามารถปรับเปลี่ยนตัวบุคคลได้ ตัวบุคคลเอาไว้เพียงทำหน้าที่รักษาแผนเท่านั้น
วิษณุ ยังกล่าวว่า วันที่ 30 สิงหาคม ตนจะเป็นตัวแทนคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเพื่อเป็นประธานในการประชุมร่วมกับประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 คณะ รวมถึงคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจและคณะปฏิรูปการศึกษา ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อวางกติกาในการทำงานว่า แผนปฏิรูปต้องมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ซึ่งแผนต่างๆ จะต้องนำเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ให้ความเห็นชอบภาย ใน 3 เดือน จึงจะเดินหน้าต่อได้ซึ่งเป็นแนวทางวิธีการทำงานปฏิรูป ก่อนไปเปิดรับฟังความคิดเห็น โดยคาดว่า แผนปฏิรูปจะแล้วเสร็จในเดือน เมษายน 2561
30 สิงหาคม 2560
กรธ.คาด ก.ม.ลูก 'ส.ว.-ส.ส.' เสร็จต้น ธ.ค. สวน กสม.ปมจ้องลดเครดิต
นรชิต สิงหเสนี โฆษก กรธ. กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 10 ฉบับ ว่า ขณะนี้ กรธ.ได้ส่งให้ สนช.แล้ว 4 ฉบับส่วนร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กสม.ที่ผ่านชั้น สนช. แต่ กสม.ได้ส่งความเห็นแย้งมาที่ สนช. เพื่อขอตั้งคณะ กมธ.วิสามัญร่วม 3 ฝ่ายนั้น กรธ.ส่งคนไปเป็น กมธ.ร่วม 5 คน ส่วนร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้ายการตรวจเงินแผ่นดินที่ กรธ.ได้เสนอต่อ สนช. วันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ทาง สนช.จะพิจารณาวาระที่ 1 ในวันที่ 31 ส.ค.นี้ สำหรับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วย ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนร่างที่เสนอมามีจำนวน 233 มาตรา ส่วนอีก 2 ฉบับ ด้แก่ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กับร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. คาดว่าจะเสร็จทันตามกำหนด 240 วัน คือ ประมาณต้นเดือน ธ.ค.นี้
ด้าน อุดม รัฐอมฤต โฆษก กรธ. กล่าวแถลงชี้แจงประเด็นที่ กสม.ทำความเห็นแย้งไปยัง สนช.ว่า ยืนยันว่า กรธ.ไม่เคยพาดพิง ลดความน่าเชื่อถือกสม.ชุดปัจจุบัน เราปรับแก้ไขสถานะ กสม. เพื่อให้ได้รับการยอมรับ จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงการแก้ไขข้อบกพร่องที่ยังมีอยู่อย่างรอบด้านยังมีกระบวนการได้มาที่ยังไม่ได้มาตรฐานยังอยู่ ส่วนการจะกำหนดให้ กสม.ชุดปัจจุบันอยู่ในวาระ หรืออยู่ครึ่งวาระต่อไปจนกว่าจะมีการสรรหา กสม.ชุดใหม่นั้น ตรงนี้ไม่ใช่ทางออกในการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แม้ทาง กสม.จะระบุว่าหลักการปารีสไม่ได้เป็นกฎหมายแต่ก็เป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณาความน่าเชื่อถือที่ต้องนำมาประกอบด้วย ส่วนการเซตซีโร่ กสม.นั้น เป็นไปเพื่อยกระดับองค์กรให้เป็นที่ยอมรับตามเกณฑ์ของสากล.
กรธ.ยืนยันหลักการเซ็ตซีโร่กรรมการ กสม. เหตุที่มาไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ขององค์กรสิทธิมนุษยชนสากล
อุดม รัฐอมฤต โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. .... ของ กรธ. กรณีให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ชุดเดิม พ้นจากตำแหน่ง หรือ เซ็ตซีโร่ และให้รักษาการไปจนกว่าจะมีการสรรหาคณะกรรมการ กสม.ชุดใหม่ ว่า เพื่อเป็นการยกระดับองค์กร กสม. เป็นการเฉพาะ เนื่องจาก กรธ.และ กสม.เห็นสอดคล้องกันว่า กรณีที่ กสม.ไทยถูกลดสถานะจากเกรดเอ เป็น เกรดบี นั้น แม้ว่าที่ผ่านมา กสม.ไทย ได้ชี้แจงที่มาของกรรมการ ต่อคณะอนุกรรมการการประเมินความน่าเชื่อถือขององค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติ (International Coordinating Committee of National for the promotion and protection of Human right) มาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่มีการนำประเด็นที่ กสม.ไทยชี้แจงไปพิจารณา เนื่องจากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่มา จึงส่งผล กสม.ไทยถูกจัดให้อยู่ในสถานะผู้สังเกตการณ์ในการประชุมเวทีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ (Global Alliance of Nation Human Rights Institutions (GANHRI)) เท่านั้น ไม่มีสิทธิลงมติหรือแสดงความคิดเห็นใดๆ เนื่องจากที่มาของ กสม.ไม่สอดคล้องกับหลักการปารีส ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่ต่างประเทศใช้ประเมินว่าองค์กร กสม. มีความน่าเชื่อถือและได้มาตรฐานหรือไม่ และแม้ว่า กสม. ทักท้วงว่า หลักการปารีสไม่ใช่กฎหมาย แต่เมื่อถูกนำมาใช้เป็นหลักเกณฑ์มาตรฐาน ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อยกระดับสถานะ กสม.ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ดังกล่าว
อุดม กล่าวเพิ่มเติมว่า กรธ. ไม่เคยลดความน่าเชื่อถือ กสม.ชุดปัจจุบัน และไม่เคยบอกว่า กสม.ชุดปัจจุบันไม่มีผลงาน แต่ กรธ.พยายามแก้ไขกระบวนการที่มาและคุณสมบัติ ซึ่งเป็นข้อบกพร่องและเพื่อให้สถานะของ กสม.ไทย ได้รับการยอมรับจากองค์กรสากล ทั้งนี้ การให้ กสม.ชุดปัจจุบันดำรงตำแหน่งต่อไปอีกครึ่งวาระนั้นหรือให้ดำรงตำแหน่งต่อไปตามกฎหมายเดิมกำหนดไว้ จึงไม่ใช่ทางออกในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ดังนั้น การเซ็ตซีโร่ กสม.ชุดปัจจุบันจึงเป็นการยกระดับให้ กสม.ไทยเป็นที่ยอมรับตามหลักเกณฑ์ของสากล และเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2560 กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ต้องไม่เคยดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระอื่นมาก่อน ซึ่ง กสม.ชุดปัจจุบันได้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระแล้ว จึงไม่สามารถกลับเข้ามารับการสรรหาตามกระบวนการใหม่ได้อีก
กก.ปฏิรูป ตร.ลดหน้าที่ตำรวจ ถ่ายโอนภารกิจ 11 ด้าน ให้หน่วยอื่นใน 5 ปี
มานิจ สุขสมจิตร ประธานอนุกรรมการด้านสื่อสารกับสังคม คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ)กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจว่า ที่ประชุมหารือถึงปัญหาจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 แสนกว่านายในประเทศไทยที่ไม่เพียงพอต่อการให้บริการประชาชน แม้จะอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสากลที่ให้ตำรวจ 3 นายดูแลประชาชน 1 แสนคน แต่เนื่องจากตำรวจไทยมีภารกิจด้านอื่นๆ มากมาย ทำให้ไม่สามารถบริการประชาชนได้เพียงพอ
ที่ประชุมจึงเห็นตรงกันในหลักการให้ถ่ายโอนภารกิจตำรวจ 11 ด้านไปยังหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรง อาทิ จราจร ป่าไม้ ท่องเที่ยว รถไฟ ทางหลวง แต่ต้องให้เวลาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีเวลาเตรียมตัวด้านบุคลากร งบประมาณให้พร้อม จึงไม่สามารถดำเนินการได้ทันที คาดว่าจะใช้เวลาถ่ายโอนภารกิจ 11 ด้านได้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี โดยไม่ต้องเอาตัวตำรวจไปอยู่ในหน่วยงานนั้นๆ ยกเว้นบุคคลนั้นมีความสมัครใจอยากไป ซึ่งสุดท้ายแล้ว ภารกิจตำรวจจะเหลือเพียงหน้าที่ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ที่ประชุมยังหารือถึงการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยงานบริการประชาชน เช่น การแจ้งความ ให้สอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ส่วนมาตรการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจนั้น จะต้องดำเนินการให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้
'วิษณุ' ย้ำแผนปฏิรูปเสร็จ เม.ย. ปี 61 ยันไม่มีพิมพ์เขียว
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เป็นประธานการประชุมประธานคณะกรรมการปฏิรูป 11 ด้าน รวมถึงคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจและการศึกษา
วิษณุ กล่าวก่อนการประชุมว่า จะหารือเพื่อกำหนดกลไกขั้นตอนงบประมาณ และผลสัมฤทธิ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยคณะกรรมการปฏิรูปแต่ละด้านต้องจัดทำหลักเกณฑ์ปฏิรูป เสนอให้คณะกรรมการยุทธ์ศาสตร์ชาติพิจารณาภายช่วงกลางเดือนกันยายน คาดว่าขั้นตอนทำแผนปฏิรูปจะเสร็