
เนื่องมาจากคำพิพากษายกฟ้องคณะรัฐประหาร โดยกรณีกลุ่มพลเมืองโต้กลับเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คสช. ในข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 จากที่ก่อนหน้านี้ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต่างยกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่า รัฐธรรมนูญชั่วคราวที่คณะรัฐประหารร่างขึ้นใหม่มีบทบัญญัติยกเว้นโทษการทำรัฐประหารและการใช้อำนาจต่อจากนั้นไว้แล้ว
เป็นผลทำให้เกิดความไม่เข้าใจในแง่การบังคับใช้และตีความตัวบทกฎหมายที่เกิดกับประชาชน การวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาศาลฎีกาน่าจะเป็นประโยชน์กับสังคมในวงกว้าง เพื่อหาแนวทางแก้ไขหรือดำเนินการเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษเพื่อคงไว้ซึ่งบทบัญญัติของกฏหมายและความเป็นธรรม
ซึ่งความเป็นธรรมในการตีความกฎหมายต้องตีความในเชิงให้เกิดผลบังคับได้ และต้องเป็นการตีความในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อเจตนารมณ์แห่งความธำรงอยู่ของความเป็นรัฐหรือชาติบ้านเมือง เพราะสถานะความเป็นรัฐ หรือความเป็นชาติบ้านเมืองจะต้องมีอธิปไตย
กลุ่ม24มิถุนาประชาธิปไตย จัดเสวนาครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการรับรู้ถึงเสรีภาพทางการเมืองที่ประชาชนต้องมีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ความยุติธรรมต้องยืนหยัดอยู่บนหลักการ อำนาจอธิปไตยต้องอยู่เหนืออื่นใดทั้งปวงสังคมควรได้ตระหนักร่วมกันว่าการรัฐประหารเป็นความผิดต่อความมั่นคง ขัดต่อหลักแห่งมโนธรรมและหลักการพื้นฐานแห่งความยุติธรรม
กำหนดการเสวนาวิชาการ
ประชาชน ศาล ทหาร รัฏฐาธิปัตย์
วันที่ 7 กรกฎาคม 2561
ห้องประชุมประกอบหุตะสิงห์ ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
12.00-13.00 ลงทะเบียน
13.00-13.20 ตัวแทนกลุ่ม24มิถุนาประชาธิปไตย กล่าวนำเข้าประเด็น
13.00-16.00 ช่วงการเสวนา สลับคนละ20นาทีในรอบแรก และคนละอีก 20 นาทีในรอบหลัง
16.00-17.00 ช่วงแลกเปลี่ยนคำถามกับผู้ร่วมเสวนา
ผู้ร่วมเสวนา
พงษ์เทพ เทพกาญจนา พรรคเพื่อไทย/อดีตผู้พิพากษา
อานนท์ นำภา ทนายความ/กลุ่มพลเมืองโต้กลับ
สมยศ พฤกษาเกษมสุข กลุ่ม24มิถุนาประชาธิปไตย
ชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ /อดีต ประธานแอมเนสตี้ ประเทศไทย
ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ดำเนินรายการ
ผู้จัดงาน กลุ่ม24มิถุนาประชาธิปไตย ร่วมกับ พรรคใต้เตียง มธ และ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง คนส.
https://www.facebook.com/events/208365373329899/