หลังจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบว่าที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวนห้าคน สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าที่ กกต. ทั้งห้าคนจึงประชุมเลือก อิทธิพร บุญประคองเป็นว่าที่ประธาน กกต. คนใหม่ ขณะที่ กกต. ชุดปัจจุบันไม่รอ กกต.ชุดใหม่ มีมติเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งครบ 77 จังหวัดแล้ว
31 กรกฎาคม 2561
ที่ประชุม กกต. มีมติเลือกอิทธิพร บุญประคอง ดำรงตำแหน่งประธาน กกต.
การประชุมนัดแรกของผู้ได้รับความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง ห้าคน ประกอบด้วย ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี, ปกรณ์ มหรรณพ, สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์, อิทธิพร บุญประคอง และธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ได้มีการประชุมเพื่อดำเนินการคัดเลือกประธาน กกต. โดยที่ประชุมมีมติเลือก อิทธิพร บุญประคอง อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นประธาน กกต.
ประธาน กรธ.ยืนยันว่าที่ กกต. ทั้ง 5 คน สามารถเลือกประธาน กกต.ได้ตามกฎหมาย
มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ยืนยันว่า ว่าที่ กกต. ทั้งห้าคน สามารถประชุมเพื่อเลือกตำแหน่งประธาน กกต. ได้ ตามที่มาตรา 12 วรรคเก้า ของ พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. แม้จะยังไม่ครบเจ็ดคน เนื่องจากความจำเป็นเพื่อให้การเลือกตั้งเดินหน้าตามโรดแมป ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ไม่ใช่การตัดสิทธิ์ว่าที่ กกต. สองคนเหลือ แต่เป็นเพราะมาทีหลัง ยืนยันว่า ประธาน กกต. ที่ถูกคัดเลือกจะมีความสง่างาม เพราะผ่านกระบวนการสรรหามาโดยชอบ และมีกฎหมายรองรับ
1 สิงหาคม 2561
ประธาน สนช.เผยเตรียมนำรายชื่อประธาน และ กกต.ชุดใหม่ 5 คน ขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้งตามขั้นตอนภายในวันศุกร์นี้
พรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่ประชุมของผู้ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่ง กกต. ทั้งห้าคน มีมติเลือก อิทธิพร บุญประคอง อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นประธาน กกต. ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติของว่าที่ กกต. ทั้งห้าคน ว่าได้ลาออกจากตำแหน่งเดิมแล้วหรือไม่ และรอรายงานผลการเลือกประธาน กกต. อย่างเป็นทางการจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ส่วนตัวคาดว่าภายในวันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม 2561 หรือภายในสัปดาห์หน้า จะนำรายชื่อประธาน กกต. และ กกต.ขึ้นกราบบังคมทูล ส่วนการสรรหา กกต. อีกสองคนนั้น คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหา กกต. ส่วนจะใช้วิธีการสรรหาแบบใด ประธาน สนช. เห็นว่า ควรสรรหาจากการรับสมัครเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ก็ต้องฟังความเห็นของที่ประชุมของคณะกรรมการสรรหาคนอื่นด้วย
เลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง 77 จังหวัดแล้ว ไม่รอ กกต. ชุดใหม่ ชี้ก่อนไปต้องทำงานให้คุ้มเงินหลวง
ศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. คนปัจจุบัน เผยถึงผลการประชุม กกต. เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ว่าที่ประชุม กกต. ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัดเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งการพิจารณาใช้เวลาคัดเลือกนาน เพราะต้องดูหลายเรื่อง เช่น มีประสบการณ์ผ่านงานเลือกตั้งมาหรือไม่ เนื่องจากต้องไปควบคุมการทำงานของกรรมการประจำหน่วย และหากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ก็ต้องมีการรายงานให้กับ กกต. ทราบ ยืนยันว่าไมได้เร่งพิจารณา แม้ตอนนี้กำลังจะมี กกต. ชุดใหม่เข้าทำหน้าที่ แต่เห็นว่าถ้าจะมีการเลือกตั้งในต้นปีหน้า หากรอให้ กกต. ชุดใหม่มาคัดเลือกอาจจะดำเนินการไม่ทัน เมื่อได้รายชื่อมาจะต้องมีการส่งไปยังจังหวัดเพื่อปิดประกาศรายชื่อเปิดโอกาสให้มีการคัดค้าน
สำหรับการประชุมได้พิจารณาเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง 77 จังหวัด จากบัญชีรายชื่อที่แต่ละจังหวัดคัดเลือกส่งมาจังหวัดละ 16 คน เพื่อให้ กกต. พิจารณาเลือกให้เหลือจังหวัดละแปดคน รวมทั้งทั้งหมดมี 616 คน โดยการพิจารณาของ กกต. เป็นการลงคะแนนลับเมื่อถึงช่วงเวลาที่มีการเลือกตั้ง กกต. จะแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดด้วยการจับฉลาก โดยแบ่งเป็น หนึ่ง ผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดจำนวนสองคน และสอง ผู้ที่ไม่มีภูมิลำเนาในจังหวัด โดย กกต.จะต้องมีคำสั่งแต่งตั้งเสร็จไม่ช้ากว่า 10 วัน แต่ไม่เร็วกว่า 30 วันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งมีผลใช้บังคับ และทำหน้าที่จนถึงวันประกาศผลการเลือกตั้ง โดยจะมีระยะเวลาทำงานประมาณ 60 วัน ได้รับค่าตอบแทนห้าหมื่นบาทต่อเดือน เบี้ยเลี้ยงวันละ 400 บาท ค่าที่พัก 1500 บาท และค่าพาหนะ 1000 บาทต่อวัน
2 สิงหาคม 2561
ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2562 เตรียมให้มที่ประชุม สนช. เห็นชอบ 30 ส.ค.นี้
พลเอก ชาตอุดม ติตถะสิริ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562แถลงข่าวความคืบหน้าการพิจารณางบประมาณของส่วนราชการต่างๆ ว่า ภาพรวมการพิจารณางบประมาณ ปี 2562 ยังเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ โดย กมธ.มุ่งเน้นให้หน่วยงานราชการต่างๆ นำงบประมาณที่ได้รับจัดสรรไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้ กมธ.พิจารณางบประมาณเสร็จแล้ว 19 กระทรวง ยังเหลือหน่วยงานที่ไม่ได้สังกัดกระทรวง อาทิ หน่วยงานสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี องค์กรอิสระ และหน่วยงานของศาลยุติธรรม คาดว่าจะพิจารณางบประมาณทุกหน่วยงานแล้วเสร็จ ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ คาดว่าจะนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2562 เข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ สนช. พิจารณาวาระสองและสาม ในวันที่ 30 สิงหาคมนี้