ลุ้นอีกรอบ 15พ.ย. กม.คลื่นความถี่เข้าสภาสูง
ร่างพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ผ่านการเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 53 และจะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาในวันจันทร์ที่ 15 พ.ย. นี้
ร่างฉบับนี้ กำหนดเพดานอายุกสทช. ที่ 35-70 ปี แก้ไขจำนวน กสทช.จาก 15 เหลือ11 คน โดยตัดตัวแทนฝ่ายความมั่นคงจากการสรรหา และให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเป็นหน่วยธุรการ กำหนดให้การส่งคืนผลกำไรจากค่าสัมปทานของรัฐวิสาหกิจโทรคมนาคมแก่รัฐภายใน 3 ปี และกำหนดในบทเฉพาะกาล เกี่ยวกับการจัดสรรคลื่นโทรทัศน์ชุมชนแก่ภาคประชาชนว่า ภายหลังจัดทำแผนแม่บทเสร็จซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 1 ปีหลังมี กสทช. หรือราว 1 ปีครึ่งภายหลัง พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้ ให้กสทช.จัดสรรคลื่นทีวีภาคประชาชนได้เป็นการชั่วคราว ในพื้นที่ที่มีคลื่นอนาล็อคว่างอยู่ แต่ต้องสามารถเรียกกลับมาจัดสรรใหม่ เมื่อมีการปรับการแพร่ภาพเป็นระบบดิจิตอลแล้ว
ไตรรงค์จวก‘ชิมิ’ ทำภาษาไทยวิบัติ ห่วงจีนเมินขายหนังไทย
เมื่อวันทื่ 10 พ.ย. 53 นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ กล่าวว่าเป็นห่วงวัฒนธรรมที่ขณะนี้มีความเสื่อมถอยมากขึ้น เห็นได้จากการใช้ภาษาผ่านเพลง ละคร ภาพยนตร์ มารยาทของวัยรุ่น โดยใช้คำที่ดูไม่เหมาะสม บางคำไม่ทราบว่าเป็นภาษาไทยหรือภาษาต่างประเทศ เช่น คำว่า "ชิมิ" ตนได้สอบถาม ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช ราชบัณฑิต ว่ารู้จักคำว่าชิมิหรือไม่ ท่านตอบว่าไม่รู้จัก ตนจึงบอกไปว่า คำนี้เป็นคำทันสมัยที่วัยรุ่นใช้กัน แปลว่าใช่ไหม เกรงว่าต่อไปภาษาไทยจะเสื่อมและวิบัติหากไม่มีการช่วยกันรักษา ดังนั้นอยากให้บอร์ดภาพยนตร์แห่งชาติช่วยกันดูแลภาษาในละคร ภาพยนตร์ ที่ปรากฏต่อสายตาประชาชนไม่ให้ภาษาเสื่อม และต้องรู้ว่าอะไรควรใช้หรือไม่ควรใช้
รายงานระบุด้วยว่า ในที่ประชุมได้ยกตัวอย่างการใช้ภาษา เช่นภาพยนตร์เรื่อง "หอแต๋วแตก แหกชิมิ" ซึ่งไม่ผ่านการพิจารณาจากบอร์ดภาพยนตร์แห่งชาติ โดยให้ผู้สร้างกลับไปแก้ไขชื่อภาพยนตร์เพราะใช้คำไม่เหมาะสม ซึ่งผู้สร้างแก้ไขเป็น "หอแต๋วแตก แหวกชิมิ" ซึ่งทางบอร์ดยืนยันว่าไม่ควรใช้คำว่า "ชิมิ" เพราะอาจจะทำให้ภาษาไทยวิบัติ
นายไตรรงค์ยังกล่าวด้วยว่ามีการตั้งข้อสังเกตในที่ประชุมครม. ครั้งทีผ่านมาว่า รัฐบาลจีนมีข้อระมัดระวังเกี่ยวกับการเผยแพร่ภาพยนตร์และละครใน 2 ประเด็น คือ ไม่ให้เผยแพร่ภาพเด็กนักเรียนทำผิดกฎหมายหรือผิดวัฒนธรรม เช่น กอดจูบ ยืนสูบบุรี่ และไม่ให้มีการเผยแพร่ภาพเพศที่สาม ตุ๊ด กะเทย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ประชาชนชาวจีน จึงขอให้ที่ประชุมบอร์ดภาพยนตร์แห่งชาติพิจารณาถึงความเหมาะสมและข้อระมัดระวังดังกล่าวสำหรับการเผยแพร่ภาพยนตร์ ละคร ทั้งในไทยและการนำไปฉายต่างประเทศด้วย
ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.กระทรวงวัฒนธรรมกล่าวด้วยว่า ประเทศจีนต้องการให้ไทยนำละครไทยไปฉายในจีน โดยมีการติดต่อจากผู้ประกอบการไทยนำไปฉายแล้วหลายเรื่อง และมีความต้องการเพิ่มอีกกว่า 10 เรื่อง นอกจากนี้ จีนยังต้องการจะสร้างภาพยนตร์ร่วมกับไทย เพื่อขยายความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยและจีนด้วย
“มาร์ค”โวเสนอใช้เงินหยวนแทนดอลลาร์
เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 53 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 และการร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ (เอเปค) ครั้งที่ 18 ที่ประเทศญี่ปุ่น ถึงท่าทีของไทยในการประชุมเอเปกต่อปัญหาค่าเงินของโลก ว่า ยังเป็นห่วงในเรื่องของค่าเงิน เพราะที่ประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (จี 20) ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องของค่าเงิน ทั้งที่เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่หลายประเทศคาดการณ์อยู่แล้วว่า เป็นเรื่องยากที่จะให้สหรัฐอเมริกา หรือจีนมีท่าทีที่ชัดเจนในเรื่องค่าเงิน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราจะต้องผลักดันต่อไปคือ จะทำอย่างไรให้ภูมิภาคมีความร่วมมือกันให้ได้รับผลกระทบจากเรื่องค่าเงินที่ผันผวนน้อยลง
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เขาได้เสนอถึงนายฮารูฮิโกะ คูโรดา ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ให้ภูมิภาคเอเชียใช้เงินหยวนเป็นเงินสกุลหลัก เพราะเชื่อว่าถ้าใช้เงินสกุลอื่นแทนเงินเหรียญดอลลาร์สหรัฐ อาจเป็นทางออกที่ดีก็ได้ ส่วนความเป็นไปได้ที่จะใช้เงินหยวนนั้น ยังมีประเด็นเรื่องที่ว่าการต้องผ่อนคลายบัญชีทุนของจีนก่อน
ผบ.สส.-มทภ.1 ชี้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้น รอนายกฯ ตัดสินใจยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เปิดเผยถึงการประเมินสถานการณ์ภาพรวมพื้นที่การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า อาจมีการพิจารณายกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ดังกล่าว ก่อนครบกำหนด โดย พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์ที่เห็นถือว่าเหตุการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่ดีขึ้นและดูเรียบร้อยขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา ส่วนเรื่องคดีความต่างๆ ที่ต่อเนื่องมานั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อ อย่างไรก็ตาม คงต้องรอการประชุมและประเมินสถานการณ์จากผู้เกี่ยวข้อง ที่จะนำเสนอเป็นข้อมูลแก่นายกรัฐมนตรีเพื่อตัดสินใจต่อไปด้วย
ขณะที่ พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ไม่ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับการพิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ดังกล่าว เนื่องจากเป็นอำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีที่จะประเมินสถานการณ์บ้าน เมืองตามข้อมูลต่างๆ ที่หน่วยงานเกี่ยวข้องเสนอให้ แต่ส่วนตัวมองว่าสถานการณ์ดูเรียบร้อยหรือเบาลงกว่าแต่ก่อนแล้ว แต่การติดตามความเคลื่อนไหวเป้าหมายต่างๆ ก็คงต้องมีอย่างต่อเนื่องต่อไป ส่วนจะเลิก พ.ร.ก.จริงหรือไม่ และเมื่อไรนั้น คงต้องรอดูทางรัฐบาลประเมินสถานการณ์และตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง
ศอฉ.สั่งดำเนินคดี "นาวาอากาศตรี" โพสต์ข้อความหมิ่นลงเฟซบุ๊ค
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ในการประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่ประชุมอนุมัติให้ดำเนินการกับนายทหารกองทัพอากาศ ยศ "นาวาอากาศตรี" กรณี มีพฤติกรรมโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค โดยข้อความดังกล่าวเข้าข่ายการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ซึ่งที่ประชุม ศอฉ.จึงได้สั่งให้ดำเนินการทางกฎหมายทันที
พล.อ.ต. มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า กองทัพอากาศได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมให้นายทหารพระธรรมนูญ เข้าสอบสวน น.ต.ชนินทร์ คล้ายคลึง หัวหน้าฝ่ายกรมช่างทหารอากาศ โดยต้นสังกัดของทหารนายดังกล่าวได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เบื้องต้นมีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งไว้ก่อน เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนดำเนินคดีทางกฎหมาย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเกิดจากการแจ้งเข้ามาว่าพบการโพสต์ข้อความที่ไม่ เหมาะสมหลายครั้ง และนำข้อความเหล่านี้ลิงค์ไปที่อื่นด้วย ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารอากาศให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าว เพราะเคยให้นโยบายกับหน่วยขึ้นตรงกองทัพอากาศ ให้กำลังพลทุกคนยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ และปกป้องสถาบัน สำหรับเรื่องดังกล่าวได้รายงานให้ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้รับทราบเมื่อสัปดาห์ก่อน
ประกาศผลเลือกตั้งพม่ารบ.ชนะขาด
เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 53 พม่าประกาศผลการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 20 ปีอย่างเป็นทางการ พรรคสหภาพเอก ภาพและการพัฒนาหรือ USDP ซึ่งเป็นพรรคที่รัฐบาลสนับสนุน กวาดที่นั่งส่วนใหญ่ในสองสภา
สถานีวิทยุที่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลทหาร ประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใน 147 เขต โดยพรรค USDP ได้ 133 ที่นั่ง และยังได้ที่นั่งในวุฒิสภาอีก 81 ที่นั่งจากทั้งหมด 86 ที่นั่ง และสมาชิกระดับสูงของรัฐบาลทหารที่ถอดเครื่องแบบมาสวมชุดพลเรือนเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งต่างคว้าชัยชนะ รวมทั้งนายกรัฐมนตรีเต็ง เส่ง ที่เป็นหัวหน้าพรรค USDP และได้ชื่อว่าเป็นนอมินีของรัฐบาลทหารด้วย
พม่าสั่งปล่อยตัวซูจีวันนี้NLDนัดฟังแถลง
เมื่อวันที่ 12พ.ย.53 พลเอกอาวุโส ตาน ฉ่วย ผู้นำสูงสุดของพม่าเซ็นคำสั่งปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี อดีตหัวหน้าพรรคเอ็นแอลดี และผู้นำการต่อสู้เรื่องประชาธิปไตยในพม่าแล้ว
เดิมที รัฐบาลทหารพม่าลงโทษนางอองซาน ซูจี ซึ่งต้องได้รับการปล่อยตัวเมื่อปีที่แล้ว แต่มีชายชาวอเมริกันว่ายน้ำข้ามไปยังบ้านพักของเธอ ทำให้เธอถูกลงโทษต่อไปอีก 18 เดือนโดยมีกำหนดปล่อยตัวในวันที่ 13 พ.ย.
นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่าการปล่อยตัวนางซูจีก่อนกำหนดหนึ่งวัน อาจเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจผลการเลือกตั้งที่มีข้อครหาว่าเต็มไปด้วยการทุจริต
ชนกลุ่มน้อยกว่า 2 หมื่น หนีเข้าชายแดนไทย
เมื่อเช้าวันที่ 9 พ.ย. 53 ทหารพม่าปะทะกับทหารกะเหรี่ยงดีเคบีเอ.ฝ่ายของ พ.อ.นะเคามวย ผู้บัญชาการทหารกะเหรี่ยงดีเคบีเอ. ในพื้นที่จังหวัดเมียวดี ตรงข้ามตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งล่าสุดชนกลุ่มน้อยได้ลี้ภัยเข้ามาในฝั่งไทย เข้ามาในบริเวณพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผวจ.กาญจนบุรี ได้ประกาศให้เขตชายแดนทางด้าน อ.สังขละบุรี เป็นพื้นที่ประสบภัยสงครามแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ระบุว่า เราจัดที่พักอาศัยให้ชั่วคราว หากเหตุการณ์เป็นปกติจะส่งกลับไปยังประเทศเหมือนเดิม โดยจะไม่มีการเปิดศูนย์อพยพอีกแล้ว เพราะที่เรามีอยู่เดิมก็มากแล้ว ขณะที่ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้มีชาวพม่าทั้งเด็ก ผู้หญิงและคนชราหลบหนีเข้ามายังฝั่งไทย เราต้องช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม ส่วนเรื่องของพม่าเป็นเรื่องภายในประเทศเขายังจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ในเขตแดนไทย ห้ามถืออาวุธเข้ามาอย่างเด็ดขาด ส่วนเรื่องกระสุนที่ตกมายังเขตไทย เราได้แจ้งไปแล้วแต่ยังไม่ทราบว่าเป็นของฝ่ายใด
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ไทยเพียงแค่ดูแลผู้อพยพเท่านั้นโดยจัดที่พักและอาหารให้ เมื่อสถานการณ์สงบจะส่งกลับไป ซึ่งขณะนี้ มีผู้อพยพเข้ามาแล้วกว่าหมื่นคน ต่อข้อถามว่า ต้องให้องค์กรนานาชาติเข้าไปช่วยดูแลหรือไม่ รมว.กลาโหมตอบว่า ไม่เกี่ยวถ้าองค์กรจากต่างประเทศอยากจะช่วยเหลือ ก็ให้ผ่านทางสภากาชาดไทย เราจะเป็นคนดูแลให้เอง
นักวิชาการเสนอกลไก “การกำกับดูแลร่วม” (co-regulation) ของสื่อ
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ รองประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ และ และนายวรพจน์ วงศ์กิจรุ่งเรือง นักวิจัย นำเสนอเรื่อง "กลไกการกำกับดูแลและควบคุมกันเองของสื่อมวลชนไทย"
ทั้งนี้กลไกปัจจุบันนั้นมีทั้งกลไกการควบคุมจากภาครัฐ เช่นการบังคับให้จดแจ้งการพิมพ์ของสื่อสิ่งพิมพ์ และการรับใบอนุญาตการประกอบกิจการวิทยุโทรทัศน์ และกลไกการควบคุมกันเองขององค์กรวิชาชีพสื่อ เช่น สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์
นักวิชาการจากทีดีอาร์ไอเห็นว่าทั้งกลไกลภาครัฐและกลไกดูแลตัวเอง ต่างมีจุดแข็งจุดอ่อน เช่น จุดอ่อนของการกำกับดูแลตัวเองคือ สามารถกำกับดูแลได้เฉพาะสื่อที่เข้าเป็นองค์กรสมาชิก และไม่สามารถลงโทษสมาชิกที่ฝืนข้อบังคับด้านจริยธรรมอย่างมีประสิทธิผล
ดร.สมเกียรติเสนอกลไก "การกำกับดูแลร่วม" คือการกำกับดูแลที่เชื่อมโยงการกำกับดูแลด้วยกฎหมายเข้ากับการกำกับดูแลขององค์กรวิชาชีพ โดยจะต้องวางหลักเกณฑ์และกระบวนการอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะแบ่งบทบาทหน้าที่ระหว่างรัฐและเอกชนที่เหมาะสม โดยหาจุดเชื่อมโยงทางกฎหมาย ซึ่งจะต้องแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์พ.ศ.2550 และ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ซึ่งในระยะยาวอาจจะต้องรวมหน่วยงานกำกับดูแลตนเองเป็นสภาวิชาชีพสื่อสารมวลชนไทย
