เป็นเวลาสามปีเต็มแล้ว ที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ถูกนำกลับมาใช้ หลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ใจความว่า รัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคงจะบังคับใช้กฎหมาย “ทุกฉบับ ทุกมาตรา” ดำเนินการต่อผู้ชุมนุม นำมาซึ่งยุคสมัยแห่งการดำเนินคดีความทางการเมืองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ คดีมาตรา 112 พุ่งสูงกว่า 281 คดี ในระยะเวลาประมาณสามปี 

 

ในจำนวนคดีอย่างน้อย 281 คดีนั้น มีอย่างน้อย 102 คดีที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว ผลแต่ละคดีแตกต่างกันออกไป บางคดีศาลลงโทษจำคุก บางคดีให้รอลงอาญา ขณะที่คดีส่วนใหญ่ยังคงเดินหน้าไปตามกระบวนการกฎหมาย

 

หน้าม่านกระบวนการยุติธรรม อาจฉายภาพตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา และจำเลย ที่ต้องเดินทางไปสถานีตำรวจ-สำนักงานอัยการ-ศาล ทุกครั้งที่มีนัดหมาย แต่หลังม่านของคดีที่มีความพิเศษกว่าคดีอาญาทั่วไปอย่างคดี มาตรา 112 ตัวละครหลังม่านต่างก็มีบทบาทไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะคนใกล้ชิดที่สุดในชีวิตของจำเลยอย่างพ่อ-แม่ ที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงเมื่อสมาชิกในครอบครัวถูกดำเนินคดีมาตรา 112 และต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ เจ้าหน้าที่องค์กรสิทธิที่ต้องติดตามคดีและสื่อสารต่อสาธารณชน นายประกันอาสา ที่รับหน้าไปวางเงินประกันต่อศาล ให้จำเลยยังมีโอกาสใช้ชีวิตระหว่างที่กระบวนการยังเดินหน้าต่อ และพยานคดี 112 บุคคลที่ต้องยืนยันใช้หลักวิชาการและหลักกฎหมาย ให้ความเห็นต่อศาลว่าการกระทำของจำเลยมีความผิดหรือไม่

 

ในระหว่างที่คดีจำนวนมากยังคงเดินหน้าต่อ โดยที่ยังไร้ความชัดเจนว่าบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงรัฐบาลและรัฐสภา จะจัดการกับคดีมาตรา 112 ในเชิงนโยบายอย่างไร ชวนรับฟัง พูดคุย แลกเปลี่ยน และให้กำลังใจกับบุคคลหลังม่านคดี มาตรา 112 ที่ยังต้องเดินหน้าทำงาน อาสา ต่อสู้ ไปพร้อมกับวันพิพากษาที่ขยับขึ้นมาเรื่อยๆ

 

 

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 เวลา 17.00-19.00 น.

ที่อาคาร ALL RISE บ้านกลางเมืองรัชดา-ลาดพร้าว

 

กิจกรรมพิเศษท้ายงาน ร่วมตอบคำถาม ลุ้นรับหนังสือ "Never Stop คนและคดียังไปต่อ" 

 

นอกจากงานเสวนา ยังมีงานนิทรรศการ 3 ปี 112 "ผู้ใดหมิ่นประมาท ..." นำเสนอ บอกเล่าข้อมูล เรื่องราวคดี 112 เปิดให้เข้าชม 12-19 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 ที่อาคาร ALL RISE