จวบจนปัจจุบัน กองทัพไทยนั้น ยืนอยู่ตรงข้ามประชาชนมาตลอด มีเหตุการณ์การเข่นฆ่าประชาชนอย่างน่าเศร้าสลดหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่เหตุการณ์เดือนตุลาในอดีตที่โด่งดัง มาจนถึงเหตุการณ์การสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์เมื่อปี พ.ศ.2553 ซึ่งเป็นการสลายการชุมนุมที่ผิดต่อหลักการการสลายการชุมนุมตามหลักสากลอย่างชัดเจน ที่เห็นได้ชัดในเรื่องดังกล่าวคือ มีการใช้กระสุนจริงในการสลายการชุมนุม และ การใช้ sniper ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรเลยกับเรื่องการสลายการชุมนุม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 91 คน และบาดเจ็บอีกราว 2,000 คน นอกเหนือไปจากนี้ กองทัพไทยเองนั้น ยังได้ยึดมั่นถือมั่นว่าตนเองคือความถูกต้อง และเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถรักษา หรือ ปกป้องสถาบันกษัตริย์เอาไว้ได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดเรื่องราวที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นมาหลายครั้ง กล่าวคือ กองทัพนั้นได้ก่อการรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนนับครั้งไม่ถ้วน และได้ยึดเอาอำนาจอธิปไตยไปจากประชาชน โดยมักอ้างเหตุผลของตนว่าสิ่งที่กระทำลงไปนั้น ก็เพื่อความมั่นคงของสถาบันกษัตริย์ แต่เรื่องดังกล่าวก็เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อการยึดอำนาจเข้าไปเสวยสุขของพวกตนเพียงเท่านั้น และโดยเนื้อแท้นั้นการแอบอ้างดังกล่าวยังส่งผลให้สถานะของสถาบันกษัตริย์สั่นคลอน ไม่เพียงเท่านั้น ประชาชนยังได้ถูกยึดเอาเสรีภาพหลายอย่างไปพร้อมๆกัน โดยเฉพาะเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งทางกองทัพมักใช้ข้ออ้างว่า "เพื่อความมั่นคง" จนส่งผลให้แม้ว่ากองทัพจะทำการทุจริตคอรัปชั่นเพียงไร หรือแม้จะมีการใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนไปอย่างเสียเปล่ากับเรื่องของพวกตนเพียงไร ประชาชนก็ไม่อาจเอ่ยปากใดๆขึ้นมาได้ เพราะถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง และหากว่าเราได้นึกตรึกตรองกันให้ดีๆแล้ว คำขวัญประจำกองทัพไทยนั้นคือ "เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" แต่ทว่ากลับไม่มีคำว่า "ประชาชน" เลยแม้แต่น้อย
ด้วยเหตุทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะลุกขึ้นมาเพื่อปฏิรูปโครงสร้างกองทัพเสียใหม่ ให้เป็นกองทัพของประชาชนอย่างแท้จริง (ร่วมแสดงความคิดเห็นในแนววิธีการต่างๆกันอย่างสร้างสรรค์ด้วยนะครับ)