รอบอาทิตย์สุดท้าย พ.ค. 54: โอละพ่อ! ไก่อูปริปาก ผังล้มเจ้าไม่ใช่ขบวนการล้มเจ้า

รอบอาทิตย์สุดท้าย พ.ค. 54: โอละพ่อ! ไก่อูปริปาก ผังล้มเจ้าไม่ใช่ขบวนการล้มเจ้า

เมื่อ 27 พ.ค. 2554

"เสธ.ไก่อู" แถลงต่อศาล ยอมรับบุคคลใน "เครือข่ายล้มเจ้า" อาจไม่ได้เข้าร่วมขบวนการล้มล้างสถาบัน

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แถลงข่าวว่า ตนเองได้ถอนฟ้องคดี "ผังขบวนการล้มเจ้า" ต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พ..สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แล้ว หลังจาก พ..สรรเสริญ ได้แถลงยอมรับต่อศาลว่า ผังขบวนการล้มเจ้าเป็นแค่การโยงบุคคลต่างๆ ว่าแต่ละคนเกี่ยวข้องกันในฐานะอะไร เช่น เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในฐานะญาติพี่น้อง เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในฐานะผู้ทำธุรกิจร่วมกันอย่างนี้เป็นต้น มิได้แถลงเลยว่า บุคคลทั้งปวงเหล่านั้นมีความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นผู้อยู่ในขบวนการ และมิได้ให้หมายความเช่นนั้น

ที่มา และอ่านเพิ่มเติมที่ มติชน

 

นักวิชาการกลุ่ม "นิติราษฎร์" ระบุ "ผังล้มเจ้า" ของ ศอฉ. คือ หลักฐานสำคัญว่ารัฐใช้อำนาจโดยมิชอบ

..สาวตรี สุขศรี อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายอาญา คณะนิติศาสตร์ มธ. และสมาชิกกลุ่มนิติราษฎร์ กล่าวถึงกรณีที่ พ..สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษก ศอฉ. ยอมรับว่าผู้มีรายชื่อใน "ผังล้มเจ้า" ที่ ศอฉ. เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 เม.. ปีที่แล้ว ว่าไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการล้มกษัตริย์นั้น ถือเป็นเป็นหลักฐานสำคัญว่ารัฐใช้อำนาจโดยมิชอบ

 

"แน่นอนว่า รัฐอาจจะอ้างว่า ผังล้มเจ้านั้นเป็นความผิดฐานหนึ่งในหลายฐานความผิด เช่น ก่อการร้าย แต่การออกมายอมรับว่าผังดังกล่าวเป็นเท็จ เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่า รัฐใช้อำนาจโดยมิชอบ และก่อให้เกิดคำถามต่อการกล่าวหาในฐานความผิดอื่นๆ เช่นกัน"

..สาวตรีกล่าวด้วยว่า แม้ในทางกฎหมายแล้ว "ผังล้มเจ้า" ไม่อาจจะใช้เป็นหลักฐานโดยตัวเองว่ารัฐมีความผิด แต่ถือเป็นหลักฐานสำคัญในฐานะเอกสารประกอบที่แสดงให้เห็นว่า รัฐใช้อำนาจโดยมิชอบ โดยผังดังกล่าวเป็นเครื่องแสดงมูลเหตุจูงใจของรัฐ ในการออกคำสั่งหรือทำให้คนอื่นเข้าใจผิด หรือทำให้เกิดความชอบธรรมแม้จะอ้างหลักฐานที่เป็นความเท็จ

เบื้องต้น คนที่ได้รับความเสียหาย ก็สามารถจะฟ้องร้องได้ทันที ตามความผิดฐานหมิ่นประมาท และละเมิด ซึ่ง น..สาวตรีกล่าวว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบในเบื้องต้นที่สามารถระบุได้ชัดเจน คือผู้มีรายชื่ออยู่ในผังทั้งหมด โดยสามารถฟ้องในฐานละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฐานละเมิดมาตรา 420 และ 423 และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 ซึ่งเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท และไขข่าวให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายและถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

 

ที่มา : ประชาไท

 

 

จับคนไทยสัญชาติอเมริกัน คดีหมิ่นสถาบันฯ ศาลไม่ให้ประกันตัว

26 ..54 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำตัวนายโจ (นามสมมติ) วัย 54 ปี ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันฯ มาขออำนาจศาลฝากขัง หลังจากเจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย นำหมายจับและหมายค้นลงวันที่ 23 ..54 บุกเข้าจับกุมตัวนายโจที่บ้านจังหวัดนครราชสีมาเมื่อวันที่ 24 ..ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 10.00 . และนำตัวมาสอบสวนยังดีเอสไอ โดยในเบื้องต้นได้เแจ้งข้อกล่าวหาว่าผู้ต้องหาได้หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และเป็นการกระทำให้กิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน เป็นผู้นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาไปด้วย

 

จากการสอบถามผู้ต้องหาทราบว่า ผู้ต้องหาอาศัยอยู่ที่รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา มานานกว่า 30 ปี และได้รับสัญชาติอเมริกัน เพิ่งเดินทางกลับประเทศไทยได้ราว 1 ปี เพื่อรักษาอาการป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง และเก๊าท์ เจ้าหน้าที่ได้กล่าวหาว่าตนเป็นเจ้าของบล็อกแห่งหนึ่งซึ่งตั้งราวปี 2550 และมีลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บที่ดาวน์โหลดหนังสือ The King Never Smiles เบื้องต้นได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และได้แจ้งต่อสถานทูตอเมริกาแล้ว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เพื่อนของผู้ต้องหาได้นำโฉนดที่ดินมูลค่ากว่า 1.7 ล้านบาทเป็นหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวต่อศาล แต่ศาลไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว เนื่องจากดีเอสไอคัดค้านการประกันตัว และศาลให้เหตุผลว่าคดีนี้เป็นคดีร้ายแรงเกี่ยวกับความมั่นคง เกรงว่าผู้ต้องหาออกไปแล้วจะไปยุ่งกับพยานหลักฐาน ผู้ต้องหาจึงถูกนำตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในเย็นวันนี้ (26 ..)

 

ที่มา ประชาไท

 

 

ปิด ศอ.รส. ไม่ต่อ พรบ.มั่นคงฯ ใน กทม. หลังใช้ยาว 105 วัน

24 .. พล...พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ10) กล่าวว่า ตามที่ ครม. ได้ประกาศให้พื้นที่ กทม. อยู่ภายใต้ พ...ความมั่นคง โดยเห็นชอบรวมทั้งสิ้น 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 มีกำหนด 15 วัน ตั้งแต่ วันที่ 9 .. ถึง 23 .. ครั้งที่ 2 วันที่ 24 ..ถึง 25 มี.. ครั้งที่ 3 มีกำหนด 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 มี.. จนถึง 24 เม.. ครั้งที่ 4 ครั้งสุดท้าย มีการต่ออายุอีก 30 วัน นับตั้งแต่ 25 เม.. จนถึงวันนี้ (24 ..) ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ที่ประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) จึงมีมติว่า จะไม่มีการต่อ พ...อีก โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะใช้กฎหมายปกติเข้าไปควบคุมดำเนินการได้หากเกิดเหตุการณ์อันอาจจะกระทบกับความมั่นคง

 

พล...พงศพัศ กล่าวด้วยว่า จากการประเมิน ผลกระทบหากจะเกิดจากการชุมนุมนั้นจะมีแค่บางพื้นที่ ประกอบกับขณะนี้มีกฎหมายเลือกตั้ง และเชื่อมั่นว่ากฎหมายเลือกตั้งสามารถเข้ามาช่วยเหลือในการดูแลความสงบเรียบร้อยได้ จึงไม่น่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม การปิดศูนย์ ศอ.รส.นี้ไม่ได้หมายความว่าภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ดำเนินการมาถึง 105 วัน จะสิ้นสุดโดยทันที แต่จะกลับไปสู่การใช้ระบบศูนย์ปฏิบัติการ หรือ ศปก.บช.. ดำเนินการวางกำลังดูแลสถานที่หรือพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ ที่เคยประกาศกฎหมายพิเศษ หรือทางการข่าวเชื่อว่าน่า จะมีการดูแลพิเศษรวมถึงตัวบุคคลด้วย โดยทาง บช.. จะรับหน้าที่ดูแลต่อไป

 

ขณะเดียวกัน การสืบสวนหาข่าวติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ รวมถึงผู้ชุมนุม จะดำเนินการต่อไป การติดตามการปราศรัยการหาเสียงจะใช้กฎหมายเลือกตั้ง เป็นแกนหลักในการดำเนินการ หากพบว่า มีการกระทำผิดกฎหมายไม่ว่าจะเข้าข่ายกฎหมายใดก็ตาม จะดำเนินคดีไปตามปกติ ส่วนคดีที่จำเป็นต้องส่งให้ทางดีเอสไอ ก็จะดำเนินการต่อไป

 

ที่มา ประชาไท

 

 

ศาลยธ.สัมมนาชี้กม.ชุมนุมใหม่อาจขัดรธน.

 

สำนักงานศาลยุติธรรม สัมมนา ชี้ ร่างกฎหมายป้องกันชุมนุม ฉบับใหม่ อาจขัดรัฐธรรมนูญ และเกิดปัญหาขึ้นภายหลัง

 

สำนักงานศาลยุติธรรม โดยสถาบันวิจัยรพีพัฒนศักดิ์ ได้จัดสัมมนา เรื่อง “กฎหมายและคำสั่งศาลเกี่ยวกับการป้องกันการชุมนุม โดยละเมิดต่อกฎหมาย : ประสบการณ์ของต่างประเทศและประเทศไทย” มีวิทยากรร่วมสัมมนา ประกอบด้วย นายวิษณุ วรัญญู ตุลาการศาลปกครองสูงสุด พล...เจตน์ มงคลหัตถี ผู้ช่วย ผบ.ตร. นายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 และ นางจันทจิรา เอี่ยมมยุรา อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

นายวิษณุ กล่าวว่า ตนเห็นว่า ร่างพ...การชุมนุมสาธารณะ พ.. ... ยังไม่สามารถตอบโจทย์ในสังคมไทยได้ เพราะยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดพื้นฐานของการชุมนุม ร่างกฎหมายฉบับนี้ ยังไม่รัดกุมเท่าที่ควร การชุมนุมในที่สาธารณะ น่าจะหมายถึงการรวมตัวกันเฉพาะกิจ ที่บุคคลทั่วไปมีความชอบธรรมเข้าไปร่วมได้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ดังนั้น ต้องวางแนวคิด และรูปธรรมให้ชัดเจน รวมทั้งขอบเขตของกฎหมาย ซึ่งควรต้องให้ตรงกับจุดประสงค์มากกว่า

 

พล...เจตน์ กล่าวว่า การชุมนุมที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจับกุมผู้กระทำผิด และมีการปะทะกับผู้กระทำผิด จนถูกไล่ออกจากราชการ จึงเห็นว่าควรจะมีกฎหมายรองรับ ในภาพรวมถือว่าพอใจกับร่างกฎหมายฉบับนี้ เพราะเป็นร่างที่เหมาะสม มีพื้นฐานจากกฎหมายหลายส่วน สาระสำคัญของร่าง พ... มีหลักการที่แยกการชุมนุมเป็น 4 ส่วน 1. ผู้จัดการชุมนุม 2. ผู้เข้าร่วมชุมนุม 3. เจ้าหน้าที่รัฐ และ 4. ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม โดยทุกฝ่ายต้องคำนึงถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพราะคนกลุ่มนี้ย่อมมีสิทธิ เสรีภาพ

 

นายรุจ กล่าวว่า หากปล่อยให้การชุมนุมยืดเยื้อ แกนนำจะปลุกระดมมวลชนให้ชุมนุมมากขึ้นจนทำให้เกิดการแบ่งสี แตกแยกในบ้านเมือง เท่าที่ศึกษาร่างกฎหมายฉบับนี้คราวๆ เชื่อว่าไม่ต่างจากกฎหมายฉบับอื่นที่เคยมี ข้อหาก่อการร้ายแม้จะไม่ชัดเจนแต่สามารถนำมาใช้ได้ ดังนั้นถ้าไม่มีร่างกฎหมายฉบับนี้ บ้านเมืองยังมีกฎหมายอื่นที่ยังใช้ได้อยู่ เช่น พ...ฉุกเฉิน หรือ กฎอัยการศึก

 

ที่มา INN

 

 

ศาลปกครองไต่สวนผู้สมัครสรรหากสทช.ขอคุ้มครองชั่วคราวฟ้องการสรรหาไม่ชอบ

ศาลนัดไต่สวนเพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวคดีหมายเลขดำที่ 1173/2554 ที่ นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร กรรมการ กทช. ปฏิบัติหน้าที่ กสทช. ยื่นฟ้อง นายจตุรงค์ ปัญญาดิลก ประธานคณะกรรมการสรรหา กสทช. และคณะกรรมการสรรหาทั้งชุดเป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 - 14 และ นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 15 เรื่องกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากใช้ดุลพินิจ การมีมติลงคะแนนคัดเลือก และการเสนอบัญชีรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือก กสทช.ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยผู้ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ เลขาธิการวุฒิสภา ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 15 จัดส่งบัญชีรายชื่อลำดับคะแนนสูงสุดเรียงตามคำดับในวันที่ 25 เม..54 ที่ปรากฏรายชื่อผู้ฟ้องคดีได้รับคะแนนสูงสุดเป็นลำดับที่ 4 ไปยังประธานวุฒิสภา เพื่อให้ทันกระบวนการคัดเลือกของวุฒิสภาด้วย

 

ภายหลังเสร็จสิ้นการไต่สวนของศาล นายสุรนันท์ กล่าวว่า ศาลได้ทำการไต่สวนคู่ความทั้งสองฝ่าย โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงเศษ ซึ่งตนได้ชี้แจงว่าการคัดเลือก ผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็น กสทช. เมื่อวันที่ 25 เม..นั้น ตามกฎหมายให้นับคะแนนเรียงลำดับจาก 1-8 แล้วเลือก 4 อันดับแรก ซึ่งตนได้คะแนนลำดับที่ 5 แต่ปรากฏว่าผู้ได้มีคะแนนลำดับ 3 เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามกฎหมาย ดังนั้นคณะกรรมการสรรหาจะต้องเสนอชื่อผู้ที่มีลำดับ 1-2 และ 4-5 ซึ่งบัญชีการนับคะแนนบัญชีนี้เป็นที่ยอมรับของทุกคนว่ามีความถูกต้อง แต่ปรากฏว่าคณะกรรมการสรรหา กลับจัดให้มีการลงคะแนนอีกครั้งในวันที่ 29 เม.. ซึ่งตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง เพราะตามกฎหมายแล้วจะจัดให้มีการเลือกใหม่ได้ในกรณีเดียวคือกรณีที่ผู้ได้รับเลือกมีคะแนนเท่ากัน

 

นายสุรนันท์ กล่าวอีกว่า หากภายหลังได้ กสทช. ซึ่งจะต้องประชุมลงมติให้ใบอนุญาตต่างๆ แล้วต่อมาปรากฏว่ามีการดำเนินการสรรหา กสทช.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งอาจมีผลทำให้การลงมติอาจเป็นโมฆะ จะสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก จึงขอให้ศาลตรวจสอบการกระทำของผู้ถูกฟ้อง ซึ่งอาจเป็นการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย และระงับการกระทำนั้นจนกว่าศาลจะมีคำสั่งหรือคำวินิจฉัย

 

ขณะที่ฝ่ายผู้ถูกฟ้องคดีได้ส่งนายชูศักดิ์ จันทยานนท์ ประธานสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย กรรมการลำดับที่ 8 ..สุวรรณนา สมบัติรักษาสุข ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ ลำดับที่ 13 และผู้แทนจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เข้าชี้แจ้งต่อศาล สรุปว่า การคัดเลือกผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็น กสทช.ของคณะกรรมการถูกต้องแล้ว หากศาลระงับมิให้ดำเนินการจะทำให้เสียหาย

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

 

 

กรมการกงสุลพร้อมจัดลต.ล่วงหน้านอกประเทศ

อธิบดีกรมการกงสุล เผย เตรียมจัดเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรแล้ว ทยอยส่งบัตรเลือกตั้ง จัดลง 17 - 26 มิ.. นี้

 

นายจักร บุญ-หลง อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวถึงการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เพื่อให้คนไทยที่อาศัยในต่างประเทศได้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ดำเนินการดังกล่าว ระหว่างวันที่ 17 - 26 มิถุนายน นี้ ซึ่งขณะนี้ กรมการกงสุล ได้ทยอยส่งหีบบัตรเลือกตั้ง ไปยังสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่แล้ว และในวันที่ 1 - 5 มิถุนายน นี้ จะเริ่มส่งบัตรเลือกตั้งและซองเลือกตั้งไปอีก เพื่อให้ทันการเลือกตั้ง จากนั้นหลังการเลือกตั้ง จะทยอยส่งบัตรเลือกตั้งกลับมาประเทศไทย ภายในวันที่ 26 - 29 มิถุนายนนี้ โดยคนไทยที่จะใช้สิทธิ์ในต่างประเทศ ต้องมาลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งกับทางสถานทูตก่อน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 2 มิถุนายน เวลา 16.30 . ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งอัตราการลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ปีนี้ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา โดยคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศเยอรมนี มาใช้สิทธิ์มากที่สุด

 

นอกจากนี้ กรมการกงสุล จะประสานไปยังสหประชาชาติ เพื่อให้ทหารไทยที่ปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพที่ประเทศซูดาน ได้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในครั้งนี้ด้วย เช่นเดียวกับคนไทยที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย สามารถมาขอใช้สิทธิ์การเลือกตั้งได้เช่นกัน

 

อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวอีกว่า กรมการกงสุล ได้จัดอบรมเจ้าหน้าที่สถานกงสุลและสถานเอกอัครราชทูต ตามเมืองใหญ่ๆ อาทิ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน และกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เพื่อรับทราบถึงกฎระเบียบรัฐธรรมนูญ และกระบวนการในการเลือกตั้ง รวมทั้งมีการประชาสัมพันธ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ และข่าวสารทางสถานทูตและสถานกงสุล ทั้งนี้ ขอให้คนไทยในต่างประเทศมาร่วมกันใช้สิทธิ์เลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย

 

ที่มา INN

 

 

ศาลอุทธรณ์คุกเกริกเกียรติยอกBBC20ปี

ศาลศาลอาญา อ่านคำพิพากษา สั่งจำคุก "เกริกเกียรติ" 20 ปี ปรับ211ล้าน และให้คืนเงินแก่บีบีซี เพิ่มเป็นจำนวน 128 ล้านบาท

 

ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่ พนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายเศรษฐกิจ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด (มหาชน) หรือ BBC ร่วมกับพวก 3 คน ร่วมกันยักยอกทรัพย์ BBC จากกรณี เมื่อปี 2537 - 2538 จำนวนเงินกว่า 200 ล้านบาท

 

โดยกรณีดังกล่าว ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และ พ...หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน แยกลงโทษเป็นกระทงความผิด รวมให้จำคุกจำเลย เช่น 45 ปี แต่ตามกฎหมายคดีดังกล่าว แต่คงให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 20 ปี และปรับ 211,160,166 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นกรรมเดียวผิดต่อหลายบท ให้ลงโทษตาม พ...หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ให้จำคุก 12 ปี 16 เดือน และปรับเงิน 1,333,333 บาท และให้จำเลยที่ 1 คืนเงิน จำนวน 93,000,000 บาท ให้แก่ BBC โดยให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดคืนเงิน 84,000,000 บาท แก่ธนาคารดังกล่าว ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง

 

ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมกันแล้ว พิพากษาแก้ให้ จำเลยที่ 1 คืนเงินให้กับ BBC จำนวน 128,000,000 บาท และจำเลยที่ 2 ร่วมรับผิด คืนเงิน 120,000,000 บาทให้แก่ธนาคารบบซี ส่วนโทษจำคุก และปรับ ให้ยืนตามศาลชั้นต้น

 

ที่มา INN