ขอเชิญร่วมเวทีเสวนา “ปรากฏการณ์ชั้นที่ ๒๘ จากอเมริกาถึงไทย : ความสำคัญของพรบ.ส่งเสริมโอกาสและความเสมอภาคระหว่างเพศกรณีการคุกคามทางเพศ”
ณ ห้องประชุมเพชรรัตน์ ชั้น ๓
โรงแรมเฟิสต์ ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
วันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๔ เวลา ๙.๐๐-๑๒.๐๐ น.
จัดโดย
เครือข่ายผู้หญิงพลิกโฉมประเทศไทย เครือข่ายผู้หญิงเพื่อความก้าวหน้าและสันติภาพ และ
โครงการเยาวชนและสตรีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สนับสนุนโดย
โครงการสุขภาวะผู้หญิง
หลักการและเหตุผล
การ คุกคามและล่วงละเมิดทางเพศเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอแทบทุก เมื่อเชื่อวันในบริบทและระดับต่างๆของสังคมทั่วโลกและในสังคมไทย โดยมีผู้เสียหายเป็นผู้หญิงและเด็กเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งองค์กรพัฒนาเอกชนด้านผู้หญิงของไทยได้ให้ความสำคัญและรณรงค์มาอย่างต่อ เนื่อง มีข่าวคราวเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่เป็นข่าวใหญ่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะสิบปี เศษที่ผ่านมา ตั้งแต่ได้มีพรบ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ที่ระบุการคุ้มครองแรงงานหญิงและเด็ก จากการล่วงละเมิดทางเพศ เช่น กรณีที่เกิดขึ้นกับสาวทำงานบ้านในบ้านพักของทูตประเทศคูเวต (๒๕๔๒) กรณีที่เกิดขึ้นกับนักข่าว (กรณีชั้นที่ ๒๘ ของโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ) ) และผู้ประกาศข่าว โดยนักการเมืองระดับสูง พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ และพล ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นจำเลย และมีกรณีที่เกิดขึ้นกับนักเรียน นักศึกษาในสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่ถูกละเมิดโดยครู อาจารย์ ได้แก่ ในโรงเรียน และสถาบันการศึกษาระดับสูง เช่น ที่โรงเรียนในเขตสายไหม กรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นต้น รวมทั้งกรณีที่เกิดขึ้นกับคนงานหญิงในโรงงานต่างๆ และเกิดขึ้นในชุมชนจำนวนมาก ที่อาจไม่ตกเป็นข่าว
จากรายงานของ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ และรายงานขององค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านผู้หญิงในประเทศไทย ผู้เสียหายที่เป็นหญิงและเด็กในคดีการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศมักประสบ ความกดดันและปัญหาสุขภาพทั้งทางกายและใจ เช่น มีความเครียด นอนไม่หลับ ปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน บางคนท้องและติดเชื้อเอชไอวี ผู้เสียหายมักถูกให้ออกจากงาน หรือลาออกจากงานเอง เมื่อไม่สามารถหาทางออกให้ตนเองได้ ทำให้เกิดการสูญเสียรายได้และความเสียหายทางเศรษฐกิจ และยังสูญเสียเกียรติยศ ความภาคภูมิใจ ความมั่นใจในตนเอง บางคนมีอาการซึมเศร้า ไม่ยอมพูดจา และบางคนถึงกับคิดฆ่าตัวตาย
แม้ ประเทศไทยจะเป็นภาคีของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติ ต่อสตรีในทุกรูปแบบ ซึ่งห้ามการเลือกปฏิบัติในการงานอาชีพ และคุ้มครองด้านสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงาน (มาตรา ๑๑) รวมทั้งมีข้อเสนอแนะทั่วไป (ข้อ ๑๙) เกี่ยวกับการคุ้มครองจากความรุนแรงต่อผู้หญิง ซึ่งรวมถึงการคุกคามทางเพศรูปแบบต่างๆ และในสถานที่ทำงาน และในภาคราชการของไทยจะมีระเบียบและวินัยเกี่ยวกับความประพฤติของข้าราชการ รวมทั้งกฎของข้าราชการพลเรือน ในเรื่องการคุกคามทางเพศ ที่ออกในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๓ และมีการคุ้มครองการล่วงละเมิดทางเพศแก่แรงงานหญิงและเด็ก ในพรบ.คุ้มครองแรงงานสำหรับภาคเอกชน ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๑ แต่ก็ยังไม่เคยมีการฟ้องร้องโดยผู้เสียหายตามกฎหมายนี้ ในปัจจุบัน มีการปรับปรุงกฎหมายนี้ เป็นฉบับปี ๒๕๕๑ และขยายการครอบคลุมไปถึงคนงานทุกกลุ่ม แต่ความซับซ้อนของคดี และโดยเฉพาะในประเด็นเพศสภาพ ที่จะสร้างมลทินแก่ผู้เสียหายและการเสื่อมเสียต่อเกียรติยศ ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล รวมทั้งปัญหาอิทธิพลและอำนาจของผู้กระทำการ ซึ่งมักเป็นผู้ที่อยู่สถานะที่สูงกว่าผู้เสียหาย ปัญหาในกระบวนการยุติธรรม ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ทำให้มีปัญหาในการคุ้มครองและมีคำถามเกี่ยวกับการบังคับ ใช้กฎหมายและระเบียบวินัยอย่างได้ผล ซึ่งเป็นเรื่องที่หนักใจแก่ผู้เสียหาย
เหตุการณ์ การคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นกับพนักงานสาวของโรงแรมโซฟีเทล ที่เกาะแมนฮัตตัน กรุงนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยมีผู้นำขององค์การการเงินระหว่างประเทศ นายโดมินิค สเตราส์-คานซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส ตกเป็นจำเลย เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๔ และถูกจับ นำตัวออกจากเครื่องบิน และถูกจองจำไว้ ต่อมาศาลอนุญาตให้สามารถประกันตัวได้ ในการร้องขอครั้งที่สอง แต่ต้องถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่และปัจจุบันถูกกักตัวอยู่ในที่พักอาศัย ในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงเป็นเรื่องที่จุดประกาย ท้าทาย และน่าสนใจที่จะศึกษาต่อการทำงานรณรงค์ขององค์กรพัฒนาเอกชนของไทยที่ทำงาน ด้านสิทธิของผู้หญิง ซึ่งกำลังเคลื่อนไหวผลักดันร่างพรบ.ส่งเสริมโอกาสและความเสมอภาคของสตรี โดยเฉพาะในกรณีการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ
วัตถุประสงค์
๑.เพื่อเสวนาถึงกฎหมายและแนวทางการคุ้มครองสิทธิความเสมอภาคของสตรีในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ในกรณีการคุกคามทางเพศ
๒.เพื่อผลักดันร่างพรบ.ส่งเสริมโอกาสและความเสมอภาคของสตรีในประเทศไทย
ผู้เข้าร่วมการเสวนา
๑.สมาชิกและตัวแทนเครือข่ายผู้หญิงพลิกโฉมประเทศไทย และองค์กรผู้หญิงต่างๆ
๒.ผู้แทนองค์กรภาครัฐต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิเสมอภาคของผู้หญิง
๓.สื่อมวลชนและสาธารณชนทั่วไป
กำหนดการ
๐๙.๐๐ – ๐๙.๓๐ น.ลงทะเบียน
๐๙.๓๐ – ๑๑.๐๐ น.เวทีเสวนา “ปรากฏการณ์ชั้นที่ ๒๘ จากอเมริกาถึงไทย : ความสำคัญของ พรบ.ส่งเสริมโอกาสและความเสมอภาคระหว่างเพศ กรณีการคุกคามทางเพศ” โดยวิทยากรรับเชิญ
- คุณวณี บางประภา ธิติประเสริฐ เครือข่ายวิจัยและรณรงค์เพื่อสตรีมูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม
- คุณนัยนา สุภาพึ่ง มูลนิธิธีรนาถ กาญจนอักษร
- คุณทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการบ้านกาญจนา
- คุณอุษา เลิศศรีสันทัด ผู้อำนวยการโครงการมูลนิธิผู้หญิง
- เสียงจากพนักงานในบริษัทหรือองค์กรที่มีการคุกคามทางเพศ
ดำเนินรายการโดย ผู้แทนเครือข่ายผู้หญิงพลิกโฉมประเทศไทย
๑๑.๐๐ – ๑๒.๐๐ น.อภิปรายแลกเปลี่ยน
สรุปผลการเสวนา และแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน