ไฟล์แนบ | ขนาดไฟล์ |
---|---|
ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับไอซีทีวันที่ 28 มีนาคม 2554 | 49.35 KB |
เมื่อวันจันทร์ที่28 มี.ค. 54 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จัด ประชุมรับฟังและให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติว่า ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยเชิญตัวแทนผู้ประกอบการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยในการประชุมดังกล่าว มีการแจกเอกสารร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ที่กระทรวงไอซีทีจัดทำขึ้นด้วย
ร่างกฎหมายนี้ เขียนขึ้นเพื่อให้ยกเลิกพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์พ.ศ. 2550 ทั้ง ฉบับ และให้ใช้ร่างฉบับใหม่นี้แทน อย่างไรก็ดี โครงสร้างของเนื้อหากฎหมายมีลักษณะคล้ายคลึงฉบับเดิม โดยมีสาระสำคัญที่ต่างไป ดังนี้
ประเด็นที่1 เพิ่มนิยาม “ผู้ดูแลระบบ”
มาตรา4 เพิ่ม นิยามคำว่า “ผู้ดูแลระบบ” หมายความว่า “ผู้มีสิทธิเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการแก่ผู้อื่นในการเข้าสู่อิน เทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น”
ใน กฎหมายเดิมมีการกำหนดโทษของ “ผู้ให้บริการ” ซึ่งหมายถึงผู้ที่ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า การพยายามเอาผิดผู้ให้บริการซึ่งถือเป็น “ตัวกลาง” ในการสื่อสาร จะส่งผลต่อความหวาดกลัวและทำให้เกิดการเซ็นเซอร์ตัวเอง อีกทั้งในแง่ของกฎหมายคำว่าผู้ให้บริการก็ตีความได้อย่างกว้างขวาง คือแทบจะทุกขั้นตอนที่มีความเกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารก็ล้วนเป็น ผู้ให้บริการทั้งสิ้น
สำหรับ ร่างฉบับใหม่ที่เพิ่มนิยามคำว่า “ผู้ดูแลระบบ” ขึ้นมานี้ อาจหมายความถึงเจ้าของเว็บไซต์ เว็บมาสเตอร์ แอดมินระบบเครือข่าย แอดมินฐานข้อมูล ผู้ดูแลเว็บบอร์ด บรรณาธิการเนื้อหาเว็บ เจ้าของบล็อก ขณะที่ “ผู้ให้บริการ” อาจหมายความถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
ตาม ร่างกฎหมายนี้ ตัวกลางต้องรับโทษเท่ากับผู้ที่กระทำความผิด เช่น หากมีการเขียนข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง กระทบกระเทือนต่อความมั่นคง ผู้ดูแลระบบและผู้ให้บริการที่จงใจหรือยินยอมมีความผิดทางอาญาเท่ากับผู้ที่ กระทำความผิด และสำหรับความผิดต่อระบบคอมพิวเตอร์ เช่นการเจาะระบบ การดักข้อมูล หากผู้กระทำนั้นเป็นผู้ดูแลระบบเสียเอง จะมีโทษ1.5 เท่าของอัตราโทษที่กำหนดกับคนทั่วไป
ประเด็นที่ 2 คัดลอกไฟล์ จำคุกสูงสุด 3 ปี
สิ่งใหม่ในกฎหมายนี้ คือมีมาตรา16 ที่ เพิ่มมาว่า “ผู้ใดสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ทั้งนี้ การทำสำเนาคอมพิวเตอร์ อาจหมายถึงการคัดลอกไฟล์ การดาว์นโหลดไฟล์จากเว็บไซต์ต่างๆ มาตรานี้อาจมีไว้ใช้เอาผิดกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์หรือเพลง แต่แนวทางการเขียนเช่นนี้อาจกระทบไปถึงการแบ็กอัปข้อมูล การเข้าเว็บแล้วเบราว์เซอร์ดาว์นโหลดมาพักไว้ในเครื่องโดยอัตโนมัติหรือที่ เรียกว่า “แคช” (cache เป็น เทคนิคที่ช่วยให้เรียกดูข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น โดยเก็บข้อมูลที่เคยเรียกดูแล้วไว้ในเครื่อง เพื่อให้การดูครั้งต่อไป ไม่ต้องโหลดซ้ำ) ซึ่งผู้ใช้อาจมิได้มีเจตนาหรือกระทั่งรับรู้ว่ามีกระทำการดังกล่าว
ประเด็นที่ 3 มีไฟล์ลามกเกี่ยวกับเด็ก ผิด
ในมาตรา25 “ผู้ ใดครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งมีลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กหรือ เยาวชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
เป็นครั้งแรกที่มีการระบุขอบเขตเรื่องลามกเด็กหรือเยาวชนโดยเฉพาะขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ยังมีความคลุมเครือว่า ลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนนั้นหมายความอย่างไร นอกจากนี้ มาตราดังกล่าวยังเป็นการเอาผิดที่ผู้บริโภค ซึ่งมีความน่ากังวลว่า การชี้วัดที่ “การครอบครอง” อาจทำให้เกิดการเอาผิดที่ไม่เป็นธรรม เพราะธรรมชาติการเข้าเว็บทั่วไป ผู้ใช้ย่อมไม่อาจรู้ได้ว่าการเข้าชมแต่ละครั้งดาว์นโหลดไฟล์ใดมาโดย อัตโนมัติบ้าง และหากแม้คอมพิวเตอร์ถูกตรวจแล้วพบว่ามีไฟล์โป๊เด็ก ก็ไม่อาจหมายความได้ว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้ดูผู้ชม
ประเด็นที่ 4 ยังเอาผิดกับเนื้อหา
มาตรา24 (1) นำ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความ ตื่นตระหนกแก่ประชาชน
เนื้อความข้างต้น เป็นการรวมเอาข้อความในมาตรา14 (1) และ (2) ของ กฎหมายปัจจุบันมารวมกัน ทั้งนี้ หากย้อนไปถึงเจตนารมณ์ดั้งเดิมก่อนจะเป็นข้อความดังที่เห็น มาจากความพยายามเอาผิดกรณีการทำหน้าเว็บเลียนแบบให้เข้าใจว่าเป็นหน้าเว็บ จริงเพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล (phishing) จึง เขียนกฎหมายออกมาว่า การทำข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมถือเป็นความผิด แต่เมื่อแนวคิดนี้มาอยู่ในมือนักกฎหมายและเจ้าหน้าที่ ได้ตีความคำว่า “ข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม” เสียใหม่ กลายเป็นเรื่องการเขียนเนื้อหาอันเป็นเท็จ และนำไปใช้เอาผิดฟ้องร้องกันในเรื่องการหมิ่นประมาท ความเข้าใจผิดนี้ยังดำรงอยู่และต่อเนื่องมาถึงร่างนี้ซึ่งได้ปรับถ้อยคำใหม่ และกำกับด้วยความน่าจะเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่น ตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกสูงสุด ห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หาก พิจารณาจากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนินคดีคอมพิวเตอร์ที่ผ่านมา ปัญหานี้ก่อให้เกิดการเอาผิดประชาชนอย่างกว้างขวาง เพราะหลายกรณี รัฐไทยเป็นฝ่ายครอบครองการนิยามความจริง ปกปิดความจริง ซึ่งย่อมส่งผลให้คนหันไปแสดงความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตแทน อันอาจถูกตีความได้ว่ากระทบต่อความไม่มั่นคงของ “รัฐบาล” ข้อความกฎหมายลักษณะนี้ยังขัดต่อสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิด เห็นโดยไม่จำเป็น
ประเด็นที่5 ดูหมิ่น ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
มาตรา26 ผู้ ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือข้อมูลอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้บุคคลอื่นเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย หรือเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่แท้จริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่ผ่านมามีความพยายามฟ้องคดีหมิ่นประมาทซึ่งกันและกันโดยใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์จำนวนมาก แต่การกำหนดข้อหายังไม่มีมาตราใดในพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่จะใช้ได้อย่างตรงประเด็น มีเพียงมาตรา 14 (1) ที่ระบุเรื่องข้อมูลอันเป็นเท็จดังที่กล่าวมาแล้ว และมาตรา 16 ว่าด้วยภาพตัดต่อ ในร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ได้สร้างความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ใช้ตั้งข้อหาการดูหมิ่นต่อกันได้ง่ายขึ้นข้อสังเกตคือ ความผิดตามร่างฉบับใหม่นี้กำหนดให้การดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาทมีโทษจำคุกสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท ทั้งที่การหมิ่นประมาทในกรณีปกติ ตามประมวลกฎหมายอาญามีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ประเด็นที่6 ส่งสแปม ต้องเปิดช่องให้เลิกรับบริการ
มาตรา21 ผู้ ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นจำนวนตามหลักเกณฑ์ที่ รัฐมนตรีประกาศกำหนด เพื่อประโยชน์ทางการค้าจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ และโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ สามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากที่กฎหมายเดิมกำหนดเพียงว่า การส่งจดหมายรบกวน หากเป็นการส่งโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มา ถือว่าผิดกฎหมาย ในร่างฉบับใหม่แก้ไขว่า หากการส่งข้อมูลเพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการ บอกรับได้ ทั้งนี้อัตราโทษลดลงจากเดิมที่กำหนดโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท มาเป็นจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ยังต้องตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากการส่งข้อมูลดังกล่าว แม้จะเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ แต่ไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ทางการค้า ก็จะไม่ผิดตามร่างฉบับใหม่นี้
ประเด็นที่7 เก็บโปรแกรมทะลุทะลวงไว้ คุกหนึ่งปี
มาตรา23 ผู้ ใดผลิต จำหน่าย จ่ายแจก ทำซ้ำ มีไว้ หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ชุดคำสั่ง หรืออุปกรณ์ที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความ ผิดตามมาตรา 15 มาตรา 16 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 และมาตรา 20 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
น่าสังเกตว่า เพียงแค่ทำซ้ำ หรือมีไว้ซึ่งโปรแกรมที่ใช้เจาะระบบ การก๊อปปี้ดาวน์โหลดไฟล์อย่างทอร์เรนท์ การดักข้อมูล การก่อกวนระบบ ก็มีความผิดจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท เรื่องนี้น่าจะกระทบต่อการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์โดยตรง
ประเด็นที่ 8 เพิ่มโทษผู้เจาะระบบ
สำหรับกรณีการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ เดิมกำหนดโทษจำคุกไว้ไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ร่างกฎหมายใหม่เพิ่มเพดานโทษเป็นจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท(เพิ่มขึ้น 4 เท่า)
ประเด็นที่ 9 ให้หน้าที่หน่วยใหม่ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
ร่างกฎหมายนี้กำหนดหน้าที่ให้หน่วยงานซึ่งมีชื่อว่า “สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)” เรียกโดยย่อว่า “สพธอ.” และให้ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “Electronic Transactions Development Agency (Public Organization)” เรียกโดยย่อว่า “ETDA” เป็นองค์การมหาชนภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงไอซีที
หน่วยงานนี้เพิ่งตั้งขึ้นเป็นทางการ ประกาศผ่าน “พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิสก์ พ.ศ. 2554” เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 54 โดยเริ่มมีการโอนอำนาจหน้าที่และจัดทำระเบียบ สรรหาประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 54
ในร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่นี้ กำหนดให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) มีบทบาทเป็นฝ่ายเลขานุการของ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์” ภายใต้ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับที่กำลังร่างนี้
นอกจากนี้ หากคดีใดที่ต้องการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดซึ่งอยู่ในต่างประเทศ จะเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด ในร่างกฎหมายนี้กำหนดว่า พนักงานสอบสวนอาจร้องขอให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์การมหาชน) เป็นผู้ประสานงานกลางให้ได้ข้อมูลมา
ประเด็นที่10 ตั้งคณะกรรมการ สัดส่วน 8 – 3 – 0 : รัฐตำรวจ-ผู้ทรงคุณวุฒิ-ประชาชน
ร่างกฎหมายนี้เพิ่มกลไก“คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์” ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผู้ อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยระบุตัวบุคคลจากผู้มี ความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ในด้านกฎหมาย วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การเงินการธนาคาร หรือสังคมศาสตร์จำนวนสามคน โดยให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี
คณะกรรมการชุดนี้ ให้ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์กรมหาชน), สำนักงานกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (สังกัดกระทรวงไอซีที), สำนักคดีเทคโนโลยี (สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม), และ กลุ่มงานตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำความผิดทางเทคโนโลยี กองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี (บก.สสท.) (สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) เป็นเลขานุการร่วมกัน
คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ออกระเบียบ ประกาศ ตามที่กำหนดในพ.ร.บ.นี้ และมีอำนาจเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหลักฐาน รวมถึง “ปฏิบัติการอื่นใด” เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ โดยให้ถือว่าคณะกรรมการและอนุกรรมการเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
Comments
ปัญญาอ่อนมากมายคืดได้งัยอะ โทษเยอะกว่ายาเสพติด เล่นคอมเนี่ยนะ เจริญละประเทศไทย
ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำเถอะนะ นี่ก็จะเปลี่ยนคณะบริหารประเทศแล้ว
ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำเถอะนะ นี่ก็จะเปลี่ยนคณะบริหารประเทศแล้ว
ดูท่าว่าจะเป็นกฏหมายที่บังคับใช้ไม่ได้จริง
แต่ถ้าวันใดวันนึงนึกครึ้มอกครึ้มใจไปตรวจสอบ เอาพวกชาวบ้านธรรมดาๆนะหาเงินเข้ากระเป๋าได้สบายเลย
มันเข้าข้างผู้ประกอบการธุรกิจมากเกินไปรึเปล่าครับ ไม่ฟังเสียงประชาชนเลย ถ้าได้ฟังบ้างก็อาจจะพอยอมรับได้ นี่เอาเสียงผู้ประกอบการอย่างเดียว มันไม่ฟังความข้างเดียวเกินไปหรอครับ ผู้ประกอบการบางรายขูดรีดประชาชนมากเกินไปไม่เห็นมีโทษอะไรเลย แต่ในขณะที่ประชาชนตาดำๆ ไม่มีเงิน ไม่มีชื่อเสียง=ไม่มีสิทธิ์ หรอครับ อย่างนี้จะเรียกว่้าประชาธิปไตยได้อย่างไร ข้อหามีสารเสพติดไว้ในครอบครอง มีโทษอย่างมากแค่1ปี ติดคุกไป ออกมาทำอีก เคยปราบได้บ้างมั๊ย แต่แค่ทำการคัดลอกไฟล์อาจจะแค่เพียงไฟล์เดียวกลับจำคุก3ปีหรือครับ มันเหมือนเด็กหนีไปเล่นเกมแล้วโดนตีประจานหน้าเสาธง แต่เด็กติดยากลับให้โอกาสปรับตัวเลย อย่างนี้ไม่เกินไปหรอ รายได้ประชาชนไทยไม่ได้มีล้นฟ้ามากมายเหมือนที่ผู้ประกอบการหน้าเลือดบางบริษัทมีนะครับ เข้าใจซักนิด บางคนอุดหนุนของแท้หมด แต่ไม่มีปัญญาซื้อWindowของแท้ได้นี่=ผิดหรอ ราคาWindowถูกที่ไหน เดินงานสัปดาห์หนังสือ วินโดว์ลดราคายัง5พันกว่าเลย เอาเวลาออกร่างงั่งๆนี้ไปทำอะไรที่ดีกว่านี้มัียครับ บางประเด็นเห็นด้วยนะ แต่บางประเด็นขอคัดค้านเลย
แล้วถ้าผมฟ้อง Google มาตราที่ 2 ข้อหา ก๊อปปี้ไฟล์ใน server ผม ทำให้รับภาระหนักขึ้น แล้วเก็บไป index ก็ได้น่ะซิครับ
Bot เหรอ
ก็นะไม่เข้าใจประเทศไทยอะนะทำไมไม่ทำแบบจีนบ้างบางเรื่องกฎหมาย ICT ของจีนไม่เห็นสนอะไรเอาแต่ให้ประเทศได้ผลประโยชน์ดูขนาดแฮกเกอร์จียแฮกกูเกิ้ลรัฐบาลจีนยังลงโษแค่เบาๆแป๊บๆก็ออกมาแล้วเห็นมั้ยครับว่าทำไมประเทศไทยถึงยังเป็นประเทศกำลังพัฒนา จริงๆแล้วประเทศที่กำลังพัฒนาในความหมายของพวกตะวันตกก็คือประเทศที่ยังไม่พัฒนานั่นหละครับแค่พูดให้มันสวยหรูเฮ้อหน้าเหนื่อยใจความเป็นชาตินิยมของคนไทยหายไปไหนหมดนะครับอย่างนี้อีกไม่นานประเทศไทยเป็นแบบอาเจนจิน่าอะครับรัฐบาลไม่มีอำนาจ ประชาชนไม่มีสิทธิในบางเรื่องของประเทศตัวเองน่าอนาถใจยิ่งนักผมว่าเราควรจะเรียนแบบจีนได้แล้วนะครับ ในเรื่องของชาตออื่นเสียหายกุไม่สนประเทศกุต้องอยู่รอดและยิ่งใหญ่อะไรอย่างงี้ แล้วก็น่าจะไปร่ากฎหมายภาษีรถยนต์ใหม่นะครับให้ยี่ห้อรถยนต์ของประเทศไทยเสียภาษี 7% อารายอย่างงี้ ส่วนของต่างประเทศก็ 300% ต่อไปเพื่อให้รถยนต์ของไทยขายได้และมีบริษัทที่จะกล้าผลิตขายครับทำอย่างงี้จะช่วยให้ประเทศลดการนำเข้ารถยนต์ได้มาก แล้วก็ควรไปร่างกฎหมายให้ห้ามส่งออกน้ำมันดิบที่ขุดได้ในประเทศไปส่งขายต่างประเทศแต่ให้สร้างโรงกลั่นแทนถึงแม้เวลาคือนทุนจากการสร้างโรงกลั่นจะนานแต่ผมว่ามันคุ้มค่ากว่าส่งไปต่างประเทศแล้วไปซื้อน้ำมันจากต่างประเทศมาอีกทอดนะครับทีเรื่องพวกนี้ทำไมไม่คิดกันบ้างครับ
เลิกใช่เน็ตไปเลยดีกว่าปะจะได้เป็นพวกเต่าล้านปีไปเลยละกัน คนไทยนะมีดี นะคนบ้างคนกลับไม่ส่งเสริม..แบบนี้ตัดระบบเน็ตไปเลยดีกว่าจะได้ลาหลังคนอื่นเข้าจะได้โง่แบบเดินนะดีและ ..
ต่อไปคงอาจจะมีข่าว
หลักฐานคามือกำลังปริ๊นงาน ตำรวจรวบจับ ด.ช.แดง ฐานคัดลอกข้อมูลบนเว็บมาทำรายงานส่งอาจารย์
เห้อ ประเทศไทย
ถ้าเรารุม "แคร็ก" แล้วมันจะเอาผิดใครหงะ แล้วรุมกด F5 นี่จะเอาผิดใครหงะถ้ารุมกันกดเีนี่ย ฮ่าๆๆ
เสียใจคับ..ที่เกิดเป็น คนไทย รู้สึกแบบนี้จิงๆ
- กฎหมายนี้ ออกมาแล้ว ประชาชนได้ประโยชน์อะไร
- 8 – 3 – 0 นี่คือสัดส่วน เงินที่จะรีดไถ รึป่าว???: ตำรวจ - ผู้ทรงคุณวุฒิ - ประชาชน
- เอาใจฝรั่งจังนะคับ นี่ถ้าฝรั่งลูบหัวหน่อย คงดีใจกันทั้งกระทรวงเลยซินะ
- อยากให้แก้กฎหมาย ให้นำ ควาย มาบริหารประเทศได้บ้าง ผมว่าเมืองไทยน่าจะเจริญขึ้นนะคับ
สุดท้ายนี้ เสียดายภาษีที่จ่าย และ รักชาติไทยน้อยลง / Lastdog
- กฎหมายนี้ ออกมาแล้ว ประชาชนได้ประโยชน์อะไร
- รู้สึกจะเสียไปทุกอย่าง
- 8 – 3 – 0 นี่คือสัดส่วน เงินที่จะรีดไถ รึป่าว???: ตำรวจ - ผู้ทรงคุณวุฒิ - ประชาชน
- ก็ดี ประชาชนจะได้ไม่ต้องถูกเรียกไถ่(น่าจะเติมสัดส่วนการจำคุกไรประมาณนี้ ประชาชนก็จะได้ไม่ต้องจำคุก)
อย่าเอาคำว่า ''กฏหมายง'' มาบังคับใช้กับประชาชนเลย สิ้งที่เกิดขึ้นในสังคมเราสามารถป้องกันได้ หากเรามีสำนึกที่ดีและช่วยกัน ความดีในตัวคนมันมีกันทุกคน ไม่ว่าจะดีหรือเลวแค่ไหน สังคมไทยก็ต้องเก้าไปค้างหน้า แต่สิ้งที่จะเกิดขึ้งต่อไปนี้จะเป็นการทำให้ประเทศหยุดการพัทนา สิ้งที่ไม่ดีก็จะยังคงอยู่สิ้งที่ดีก็จะเหมือนเดิม จะไม่มีการเก้าไปค้างหน้าได้เลย หากข้อกฎหมายนี้ออกมาจะมีคนอีกมากที่ต้องติดคุกหรือเป็นผู้ต้องหาไปโดยไม่รู้ตัว คิดดีแล้วหรือว่าคนไทยส่วนมากที่ใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างถูกต้องมากแค่ไหน จะออกกฎหมายมาว่าแบบนั้นไม่ได้แบบนี้ไม่ได้ สู้ออกกฎหมายสนับสนุนให้มีการเรียนการสอนการใช้คมพิวเตอร์กับเยาวชนตั้งแต่เล็กๆ จะได้มีเด็กไทยเก่งๆไว้พัทนาประเทศต่อไปไม่ดีกว่าหรือ ภาษีที่ได้จากประชาชนนะไปไหนหมด เอามาส่งเสริมในด้านดีสิ ดีกว่าออกกฎหมายมาแบบนี้ ทุกวันนี้ต่างชาติเค้าก็ไม่อยากมองหน้าไทยแล้วรู้ตัวหรือเปล่า ให้เค้าได้เห็นว่าไทยมีดีบ้างเถอะ ถ้าไม่คิดว่าที่นี้เป็บแผ่นดินบ้านเกิดผมคงไม่อยู่แล้วละ นี้แหละน่า ''ประเทศไทย''
ข้อกฎหมายบ้างข้อเหมือนจะสามารถขอข้อมูลจากต่างประเทศได้ด้วย (ไม่รู้จะตามจับใคร)
ไม่เห็นด้วย จริงๆครับ ร่างกฏหมายนี่ไม่ควรผ่าน คำอนุมัติ เด็ดขาดครับ เนื่องจาก มีข้อเสียมากมาย รวมถึงการ ยังมีช่องโหว่ อยู่มากให้กับ อาชญากร บนโลกไซเบอร์....ดังนั้น ขอให้ พิจราณา ร่างกฏหมายนี้ดูอีกครั้งนึงครับ
ไม่อยากจะด่านะครับ เเต่คนร่างกฏหมายนี้ ก็น่าจะคิดซักนิดนึงนะครับ ว่า คนร่างอย่างคุณเอง ก็เป็น ประชาชนเหมือนกัน ....ขนาดตัวพวกคุณเองยังทำไม่ได้ ฉไนเลย พวกผมจะ ทำเเบบพวกคุณไม่ได้บ้างหละครับ
ฝากไว้นะครับ... มีช่องโหว่อีกเยอะ ...เชื่อดิ
ถ้ามากๆเข้าจะไม่ดีต่อ ฐานเสียงของพรรคแน่นอน รับรองได้ พวกเราจะเอาไปประกาศตามเวปให้ทั่วเลย เตรียมตัวครับ ไม่ได้เป็นแน่นอนครั้งหน้า ถ้าเอากฏหมายบ้านี้ออกมา
คนไทยไม่มีสิทธ์ ต้องไปเป็นคนมาเลเซีย ถึงมีสิทธ์หรือไง มาเล รัฐปกป้องประชาชน นี้อะไรปกป้องนายทุน ผมและเชื่อเลย จะให้ใช้อะไรกันครับ ดูประเทศตัวเองด้วยก่อนจะประกาศอะไรออกมา จะให้ไปซื้อ Matlab ราคา 500000 บาทมาทำงานวิจัยหรือไง วิโด 2000 Autocad 200000
ถ้าเป็นแบบนี้จริง ตำรวจเห็นเราพก Notebook แค่เปิดเครื่องดู Software แล้วบอกว่าเป็นของเถื่อน ก็ยึดไปเลย ประชาชนจะได้ไม่ต้องทำอะไรปล่อยให้ประเทศมันล่มจมไปเลย
ถ้าเป็นแบบนี้ สู้ให้เสื้อแดงเป็น นายกยังดีกว่าอีก ถึงมันจะโกงกิน แต่มันไม่เคยทำกับประชาชนแบบนี้
แล้วจะมี3Gกับเน็ตแรงๆไว้เล่นเกมเฟสบุ๊คหรอครับ
ผมรู้ว่าพวกคุณที่ทำงานอยูี่ICTก็เคยโหลดอยู่แล้วแหละ
อีกเรื่อง ห้ามคัดลอกไฟล์(แล้วคอมมันจะมีคำสั่งcopyไว้ทำลิงอะไรละครับคุณICT)
เอาเวลาที่มานั่งเขียน พ.ร.บ. ไปคิดว่าจะทำยังไงไม่ให้เอามือถือเข้าไปในคุกได้ดีกว่ามั่ง ทำยังไงไม่ให้ข้าวของแพง ทำยังไงนักการเมืองจะเลิกตอแหล นะขอร้องไรสาระมาก ICT.
มีคำถามถึงเจ้าหน้าที่รับนะครับ เครื่องคอมหรืออุปกรณ์ ที่ท่านใช้อยู่ ท่านสามารถบอกได้ไมว่า เครื่องทุกเครื่องของคุณถูกต้องตามกฏหมายหมด รอดูง่ายๆ ว่าไปแจ้งความ ตำรวจใช้ Notebook ไปลงบันทึก แล้วเครื่องที่ตำรวจใช้ ไม่มี windows ไม่มี Office แต่ใช้ windows ,Word แต่ใช้เพราะมีในเครื่องอยู่แล้ว ทำไมมีซื้อละครับ หรือเพราะมันมีอยู่แล้วก็เลยต้องใช้ไป แล้วรอดูแผ่น VCD ,DVD ถ้าไม่มีของ copy เลยสั่ง 1 แผ่นอันนี้คือผิดปกติครับ รอดูคนใกล้ตัวก่อนนะครับ แล้วไปดูคนส่วนใหญ่
"ข้าราชการ เป็นผู้รับใช้ประชาชน เพราะเงินเดือนที่ได้รับ ก็คือภาษีประชาชน ไม่ว่าจะจ่ายน้อยหรือจะจ่ายมาก"
ความคิดเขาก็ดีนะครับแต่ผมว่าเขาคงเขียนกฎหมายไม่เป็นละมั้งและคงไม่รู้จักคอมพิวเตอร์
เพราะเขียนกว้างไปมากจนไม่รู้เลยว่ามันกระทบไปทุกอย่างของคอมพิวเตอร์ที่ต่อเน็ตเครื่องหนึ่ง
น่าจะกลับไปเรียนกฎหมายใหม่และเขียนให้มันเจาะจงหน่อยไม่ใช่ทำให้ทุกคนมีความผิดที่ไม่รู้ตัวแบบนี้
คนใช้ไม่ได้ออกกฏหมาย
คนออกกฏหมายไม่ได้ใช้
ผลมันเลยเป็นแบบนี้ เน่ามาก
คิดมาได้ไงเนี่ย
ต่างประเทศไปไกลกว่าเพราะเค้าเข้าใจประชาชนค่ะ...
บางอย่างที่ประเทศไทยผิดเค้าไม่ผิดเพราะมันเป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไมไ่ด้
อย่างที่มีคนกล่าวไว้ว่า ในไทยเรื่องคอมนี้ ซ้อยก็ผิด ขวาก็ผิด ต่อไปคงใช้
และข้อมูลจากทางต่างประเทศมากขึ้น และวัฒธรรมก็จะมีแต่ของต่างชาติ
ผู้สร้างเว็บไซต์มาเพื่อหารายได้ก็ฝากเว็บไว้ที่ต่างประเทศ
เงินก็จะไหลออกนอกประเทศไปอีก เงินที่เข้าออกประเทศในคนหารายได้ทางอินเตอร์เน็ตนี้
ต้องศึกษาอีกนะคะ มันไม่ได้ยากแล้ว มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ถูกกฎหมายส่งเงินระหว่างประเทศ
ได้ง่ายมากขค่น ดังนั้น เงินออกนอกแน่นอนค่ะ เพราะนอกเค้าไม่ผิด แต่ในไทยผิด..
เรื่องในเน็ตนี้ต้องหาคนที่เข้าใจโลกไซเบอร์ค่ะ เพราะมันมีอะไรอีกหลายอย่าง
มาปิดกั้นแบบต้นทางแบบนี้ คนอื่นก็ไปไหนไม่ได้แล้ว
ติงต๊องไปกันใหญ่แล้ว....ไปนั่งบล็อคแค่เว็บอย่างเดียวเหอะ เห้อออ
กาก
งั้นเขาจะมีเน็ต บรอดแบรนทำซากอะไร !
กรูติดเน็ต 256k ดีกว่าถ้าโหลดแล้วติดคุกอะ
ICT ยุบไปซะ มาร่าง พรบ. กาก เกรียน ปิดเสรีภาพ เอาเปรียบประชาชนเนี่ย ทำไปเพื่ออะไร อย่าเขียนเอามั่วซั่วคิดเองเออเอง ควรให้ประชาชนได้รับรู้บ้าง ให้ประชาชนเขามีส่วนร่วมในการตัดสิน แสดงความคิดเห็น ไม่ใช่ว่า ICT ใหญ่โตมีอำนาจเหนือประชาชน จะทำไรก็ทำ และคอยเหยียบคนอื่นให้จม รู้ว่ารวย อย่ามาเอารัดเอาเปรียบกะคนอันไม่มีจะกินสิ่ ติดคุกไม่พอ ยังมาปรับเป็นหมื่นเป็นแสน ถ้าติดคุกจะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงครอบครัวมาใช้จ่าย ละถ้าเงินไม่มีจ่ายจะลากคอไปซ้อมหรอ เหมือนเงินกู้นอกระบบอ่ะ จะมาจับเรื่องลิขสิทธิ์อ่ะ หัดแหกตาไปตรวจรัฐบาลสถานีตำรวจไรประมาณนี้ แล้วค่อยไล่ลงมาถึงประชาชนธรรมดา นี่จะปิดกั้นกันจนหมดประชาธิปไตรเลยหรอคับ ฉลาดเรื่อง ไอที แล้วก็ต้องฉลาดในการทำงานด้วย คิดข้อดีข้อเสียผลที่จะตามมาบ้าง ไม่ใช่ว่า ICT จะทำอะไรก็ถูกไปซะหมด ถ้าจะมาเขียนกฏหมายมาสั่งเอาผิดคนอื่นอ่ะ เอาเวลาว่างไปช่วยกันพัฒนาประเทศ ไปแก้ไขปัญหาของแพง ช่อโกง ภัยธรรมชาติ รนรงณ์ ไรงี้ให้เกิดประโยชน์ไม่กีกว่าหรอ ถ้าดีเมื่อไหร่ค่อยมาเรื่องกฏหมายคอมพิวเตอร์ ด้านการดำรงชีวิตประชาชนเอาให้รอดก่อนเถอะ ถึงจะมีเงินถึงจะรวยมีอำนาจมาจากไหนก็ตายจากโลกเหมือนกันแหละ ทุกชีวิตเท่าเทียมกัน
ประเด็นที่ 2 คัดลอกไฟล์ จำคุกสูงสุด 3 ปี
ประเด็นที่ 3 มีไฟล์ลามกเกี่ยวกับเด็ก ผิด
แนะนำนะ ไปจับที่พันทิบ ให้ได้ก่อน งั้นคนเค้าไม่กลัวหรอก พันทิบออกจะเกลื่อน
อย่าลืมนะ กันให้โหลดบิท คนก็จะไปซื้อแผ่นก๊อบ กลายเป็น "รัฐบาล"สนับสนุนให้ "ซื้อ แผ่น ก๊อบ"
นอกเรื่องหน่อย ทำไมคอมที่ประกอบให้ พวกโรงเรียนไรพวกนี้ ราคาแพงเกินกว่าราคาจริงไปเยอะ? แถมสเปคก็ ห่วยๆ?
ประเด็นที่6 ส่งสแปม ต้องเปิดช่องให้เลิกรับบริการ
อันนี้ถ้าทำได้จริง ก็จะสนับสนุน เพราะมันน่ารำคาญมว๊ากกกกกกกกกก
ประเด็นที่10 ตั้งคณะกรรมการ สัดส่วน 8 – 3 – 0 : รัฐตำรวจ-ผู้ทรงคุณวุฒิ-ประชาชน
ขอให้เพิ่มส่วนประชาชนด้วยได้ไหมครับ? ความคิดของประชาชนมีเยอะนะครับที่อยากเสนอแนะแต่มักถูกปิดปากและถูกมองข้าม
เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน หรือ บางคน
ขอโทษนะครับ อยากรู้ว่าใครคิดร่าง พรบ นี้ อยากจะรู้ว่าเอาอะไรมาคิด
นี่แหละประเทศไทย แอ่งโอตรอาก .
ย้ำว่า โคตรกาก !
กากชิบหาย ๕๕๕ .
2 มาตรฐาน ประชาชนไม่มีสิทธิทำอะไรเลยอย่างนี้หรอกที่เรียกว่า ประชาธิปไตย เดี่ยวนี้มันยุคไอทีเเล้ว ทำอะไรก็ผิดกฎหมายเอาเวลาไปพัฒนาประเทศก่อนไหมให้มันดีกว่าเดิมให้มันเจริญกว่าเดิมมีรายได้เพิ่มขึ้นถ้ากูได้ตังค์เดือนละเเสนเท่าพวกนักการเมืองกูจะใช้ windows leopard ของแท้
ถ้ากูโหลด ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับไอซีทีวันที่ 28 มีนาคม 2554 เเล้วจะผิดประเด็นที่ 2 คัดลอกไฟล์ จำคุกสูงสุด 3 ปี
คาดว่าต่อไปใครมี copy file ไว้ในครอบครอง คุณอาจติดคุกนานกว่า มียาเสพติดเสียอีก เยาวชนก็คงหันไปหายาเสพติดแทนครับ เพราะได้เงินด้วย ถูกจับก็โทษน้อยกว่าหรือไม่ต่างกัน ว่าไหมครับ
??? ใคร คิด ผ่าตัดสมองออกมาขี้เลี่อยคงทะลักอะ
ผ่านเมื่อไหร่เจอ Vote Noๆๆๆๆๆๆๆ
ปัญญานุ่ม คิดอย่างงี้ไปเกิดในสมัยพระเจ้าสามเหาซะ อย่าปิดหูปิดตาคนอื่นเขา
ขอแหกคิวนิดนึงนะคับ ช่วยกันออกความเห็นเรื่องกฎหมาย ICT ควรจัดตั้งศาลชำนาญพิเศษเฉพาะและใช้ระบบลูกขุนในการตัดสินพิจารณาคดีด้วยคับ http://ilaw.or.th/node/634
ถ้ามีไฟล์ลามกเกี่ยวกับเด็ก อย่างงี้ คลิปชิซูกะแก้ผ้าอาบน้ำ หรือแม้กระทั่้งถ่าย คลิป น้องแถวบ้าน เด็ก 4-5 ขวบ แก้ผ้า เล่นสงกรานต์ ก็ผิดสิ
-*-
อันนี้ของจริง หรือว่า ข่าวโคมลอยละเนี่ย .... ดราม่า ?
คงไม่ใช้กฎหมายนี้จริงๆ หรอกมั้ง ถ้าใช้จริงเค้าจะเอาคอมไปย่าง
เอา เราท์เตอร์ไปขว้างหัวหมา ไม่ใช้มันละคอมพิวเตอร์
ถ้าจะไม่ให้ทำเยอะขนาดนี้ จับจอบจับเสียบไปขุดหาจิ๊กกุ่งดีกว่า
ปิด google ไปเลยคับมันจะได้หาเวปโหลดไม่ได้ คนไทยจะได้ฉลาดมากกว่านี้
ตอนนี้ก็ฉลาดจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ปิดgoogleไปเลยเกมส์ยิงไข่จะได้กลับมาดัง
ผมว่าไม่ไหว เรื่้อง ประเด็นที่ 3 มันจะเวอร์ไปไหม ขอบอกว่ามันกว้างเกินไป เเล้วอีกอย่าง เด็ก (บางคนเรียกว่า สาย Loli มันมีเยอะเกินไป เรารับมาจากค่างประเทศโดยครงเลย บางครั้ง ถ้าจะบล๊อกจริง มันก็เกินเรื่องสิทธิไป ไม่เช่นนั้นจะมีอิืนเตอร์เน็ตไว้ทำไม ในเมื่องบางคนถึงขนาดติดเน็ตเพื่อใช้งานประเทศนี้ ) เรื่องนี้ผมว่า จัดเรท ยังพอรับได้อย่าง 22+ ไรงี้ ถึงบางคนจะไม่สนใจเเต่ยังพอ สำนึกไรประมานนี้ ถ้าจะจับกันจริงผมว่าโดนเกือบทั้งประเทศ (เว้น เพิ่งซื้อคอมไหม่ ถ้าติดน็ตยังไงก็ต้องมี) ไม่มีใครปล่อยให้ของเข้าเครื่องตัวเองโดยไม่รุตัวหรอก เว้นโดนเจาะระบบไรประมานนั้น
พ.ร.บ ถอยหลังเข้าคลอง กลับไปใช้ เน็ต 56k ดีกว่ามะ
แน่จริงทำให้ได้ก็แล้วกัน องค์กร ทั่วประเทศมีที่ไหนบ้านไม่โหลดข้อมูล
แล้วจะพัฒนาให้องค์กรต่างๆ ออนไลน์ข้อมูลกันทำไม เฮ์อ ประเทศไทยจงเจริญ
โหลดอารัยไม่ได้แล้วระบบ ไอที ประเทศไทยจะพัฒนาได้ยังไงเนี่ย ความรู้ปัจจุบันอยู่ในเน็ตหมด เบียดเบียนประชาชนเข้าไป อุ้มชูผู้มีอันจะกินให้เยอะๆ เจริญละประเทศไทย
แค่เข้าดู youtube หรือเข้าเว็บแล้วเบราว์เซอร์เก็บไฟล์ แคช ก็ คุก แล้ว ตลกมากเหมือนบอกว่าจงเลิกใช้ Internet เลย แล้วออกกฎหมายมาซ้ำชั้นมาทับกฎหมายลิขสิทธิ์ทำไม
ประเด็นที่10 ตั้งคณะกรรมการ สัดส่วน 8 – 3 – 0 : รัฐตำรวจ-ผู้ทรงคุณวุฒิ-ประชาชน
ข้อนี้เฮงซวยมาก อำนาจประชาธิปไตยมาจากประชาชน อย่างสวิสประชาชนผู้ตัดสิน แต่นี่บอกปลายๆ ประชาชนไม่มี ในอำนาจประชาธิปไตย ตำรวจเท่านั้นถึงครอบอำนาจเบ็คเตล็ด เพราะวัดกันที่เสียงข้างมากเกินครึ่ง แล้วประชาชนคนไทยอยู่ไหน ไม่อยู่ประเทศไทยเหรอ
สิ้นหวังเถอะแบบนี้
คนที่ใช้ เน็ต แล้วไม่ยุ่งกับ ประเด็นที่ 2 นี่สิในโลกนี้จะมีซักกี่คนเชียว~!
วินโดว์แท้แต่ละกระทรวงใช้เป็นร้อยๆเครื่องรัฐมีปัญญาจ่ายมั้ยล่ะ
บางส่วนผมก็เห็นด้วย ในฐานะนักพัฒนา ซึ่งผมตอนนี้ก็ใช้ทุกอย่างมี license หมด มีอะไร freeware ใช้แทนได้ก็ใช้
แต่บางที เราโหลดบิต ใช้แผ่นก็อปกันซะเคย เลยรู้สึกว่ามันปิดกั้นหรือเปล่า???